#MechReview Realforce RGB ของโหด ของแรง มาพร้อมไฟ RGB (มีคลิป)

หลังจากที่ผมได้แนะนำบทความเกี่ยวกับสวิตช์ Topre ไปแล้ว (ใครยังไม่อ่านจิ้มโลด) เชื่อว่าหลายคนอาจจะกิเลสมา (มั้ง) อยากจะหาซื้อมาเจ้าของเสียเหลือเกิน

แต่ก็ติดที่ว่า Keyboard Topre ในตลาดนั้นมีแต่แบบหน้าตาธรรมดา ไร้ไฟสีสันสดใส ไม่ถูกใจยุคสมัยนี้ที่อยากได้ Mechanical Keyboard ประดับโต๊ะมีไฟ RGB เท่ๆ กับเค้าบ้าง ทาง Realforce คงรู้ตัวตรงนี้ดี และได้ปล่อยเจ้า Realforce RGB ออกมาในตลาดให้แฟนๆ Topre ได้มาเป็นเจ้าของกัน

ทางผมเองก็ได้โอกาสจากทาง IT Works Solutions ผู้ใหญ่ใจดีให้ลองมายืมเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ทุกคนได้อ่านกันครับ ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้เลย

Realforce RGB เป็น Mechanical Keyboard ที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมจาก Realforce ปกติ พอสมควรจากการที่ Realforce รุ่นอื่นๆ จะเน้นหน้าตากึ่งๆ Vintage มีขนาดบอดี้ที่ใหญ่เทอะทะเสียหน่อย Realforce RGB มาพร้อมกับบอดี้ทรงเพรียวสมัยนิยม ซึ่งหน้าตาดูทรงคล้ายๆ Ducky Shine อยู่เหมือนกัน

รอบนี้ผมทำคลิปวิดีโอขึ้นมาเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการวิดีโอมากกว่านั่งอ่านบทความด้วยนะครับเข้าไปดูกันได้เลยด้านล่าง โดยแนะนำว่าเพื่อความครบถ้วนของเนื้อหาจริงๆ แนะนำให้ทั้งดูและอ่านครับผม

Unbox

ก่อนอื่นเลยเรามาสำรวจตัวกล่องกันก่อน ตัวกล่อง Realforce RGB มาพร้อมกับกล่องสีดำแดงเคลือบเงาสไตล์เรียบหรูดุดัน พร้อมกับรูปประกอบโชว์ความเป็น RGB อย่างชัดเจน พร้อมโลโก้สุดสวยงามเป็นสง่าราศีสุดๆ

หลังจากแกะกล่องมาเราก็เจอแผ่นบังพร้อมโลโก้ Realforce อีกรอบ…. คือมั่นใจแน่นอนว่าซื้อถูกแบรนด์ ตอกย้ำกันสุดๆ ซึ่งด้านหลังของแผ่นนี้เป็นคู่มือใช้งานโดยย่อครับ พอเราเปิดขึ้นมาก็จะเจอ Realforce RGB ห่ออยู่ในถุงโฟม (ซึ่งแม่งขาดง่ายมาก….ระวังให้ดีๆ)

ที่น่างุนงงอย่างนึงคือ พี่แกไม่แถมอะไรมาให้เลยอะ Keycaps Puller ไม่มี แคปเสริมไม่มี ไม่มีอะไรเลย แบบคลีนมาก โคตร Minimal จริงๆ ด้วยราคาค่าตัวขนาดนี้น่าจะแถมมาซักนิด

Overview ทั่วๆไป

หลังจากจัดแจงเอาออกจากกล่องก็เจอเจ้าตัว Realforce RGB นอนแผ่หราสบายใจ เอาออกมาวางแล้วดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว งานประกอบเป็นพลาสติกแข็งคุณภาพดีครับ งานพลาสติกแข็งหนักแน่นดีมาก ดูหรูดูดีเลยแหละ เป็นพลาสติกก็จริงแต่ไม่ได้ดูแย่แต่อย่างใด

เดี๋ยวยังไงท้ายบทความมีอัลบั้มรูปเยอะกว่าในบทความให้ลองเลือกดูกันนะ

ตัว Keycaps เป็น ABS Double Shot ไฟลอด ลักษณะตัวอักษรบอกตรงๆ ว่าเหมือน Ducky มาก ต่างกันแค่ไม่กี่ปุ่ม จนไม่มั่นใจว่าให้ Ducky เค้าผลิตให้หรือเปล่า หรือยังไง

ในส่วนของสายนั้นถอดไม่ได้นะครับ แถมสายเป็นสายยางดำธรรมดาปกติเลย ตรงนี้ขอบ่นนิดนึงว่าค่าตัวก็ออกจะตั้งแพงน่าจะทำเป็นสายถักหรืออะไรหน่อยจะได้เข้ากับสไตล์ยุคใหม่ๆด้วย แต่มันก็ไม่ได้กระทบการทำงานอะไรอ่ะนะ

ส่วนตัวสายเป็นสายออกด้านใต้บอดี้ สามารถปรับทิศทางสายเคเบิลออกได้ทั้งหมดสามทางตามคีย์บอร์ดยุคใหม่ๆ ชอบทำ นับว่าเป็นเรื่องดีอยู่ครับ โดยถ้าเทียบกับ Realforce 87U คือสายอ่อนกว่าเยอะมาก บิดง่าย ใส่แล้วไม่เป็นรอย

ขาตั้งเป็นแบบเปิดขึ้นมาได้ระดับเดียว ก็คือเราสามารถวางแบบราบลงไป หรือเปิดขาตั้งขึ้นมาครับ ซึ่งขาตั้งนั้นมั่นคงและแข็งแรงมากๆ งานดีมากๆ ครับ

Keyboard แบบ Full Size 108 ปุ่ม มาจาก 104 ANSI มาตรฐาน + 4 ปุ่มขวาบน ปุ่ม Mute ปุ่มลดเสียง ปุ่มเพิ่มเสียง และปุ่มหน้าตาประหลาดหนึ่งปุ่ม แต่ไอ้ปุ่มนี่แหละ พระเอกของเจ้า Realforce RGB เลย โดยมุมขวาบนเป็นส่วนเดียวที่ทำพื้นผิวเงาสะท้อนแสง พร้อมโลโก้ Realforce

ส่วนตัวผมรู้สึกการที่เคลือบมุมสะทอนแสงมันแปลกๆ คือบอดี้เป็นสีดำด้านมาทั้งหมด ยกเว้นตรงนี้มันแปลกๆ แต่อ่านเวปนอกมาหลายคนก็ชอบเพราะเหมือนรู้สึกให้มุมขวาบนมันเด่นขึ้นมา อะไรแบบนั้น

Actuation Point Changer (APC)

จุดเด่นที่ทำให้ Realforce RGB ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่แค่ไม่เหมือน Mechanical Keyboard ปกติแล้ว ยังไม่เหมือน Topre ตัวไหนก็ตามที่เคยมีมาอีกด้วย

เจ้าปุ่มที่ว่านี่คือปุ่ม APC ย่อมาจาก Actuation Point Changer หรือแปลเป็นไทยว่า “ปุ่มปรับระดับการทำงาน” นั่นเอง

อย่างที่เรารู้กัน (หรือเปล่า?) ว่า Mechanical Switch นั้นไม่จำเป็นต้องกดให้สุด (Bottom-Out) ก็สามารถส่งคำสั่งเข้าไปได้ ใครใช้ Mechanical Keyboard อยู่ลองดูก็ได้ครับ ว่ากดลงไปครึ่งนึงตัวอักษรก็ขึ้นบนจอละ เจ้าจุดที่ส่งคำสั่งเข้าไปนี่แหละเราเรียกว่า Actuation Point (อ่านว่า แอค-ทู-เอ-ชั่น พอยต์)

ทีนี้เจ้า Realforce RGB เนี่ย สามารถปรับระดับ Actuation ที่ว่าเนี่ยได้ 4 รูปแบบ จากเจ้าปุ่มขวาบนสุดนี่เอง คือที่ระดับ 1.5 / 2.2 / 3 มิลลิเมตร โดยพอกดแล้วไฟทั้งคีย์บอร์ดจะโชว์ตามที่เรากดครับ สีน้ำเงิน = 1.5mm / สีเขียว = 2.2mm / สีแดง 3.0mm

ส่วนแบบสุดท้ายคือแบบปรับอิสระ!! โดยใช้ Software ในคอมปรับรูปแบบที่ 4 ได้ครับ เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างอยู่

ผมลองทดสอบใช้แล้วถามว่ามีอะไรเปลี่ยนมากมั้ย ต้องบอกได้ว่าแม้ว่า น้ำหนักการกดจะเท่าๆ กัน แต่ลักษณะการพิมพ์และจังหวะจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

อย่างปกติผมใช้ Mechanical Keyboard ที่ Actuation Point ราวๆ 2.0mm พอลองปรับเป็น 3.0mm แล้วเวลาพิมพ์เร็วๆ นี่บางปุ่มดันกดไม่ติดเพราะบางทีไม่ได้ Bottom Out น่ะแหละ ส่วนถ้าตื้นๆ จะรู้สึกได้ว่าตัวอักษรจะขึ้นเร็วกว่าปกติ แต่ก็เสียงกับการลั่นง่ายกว่าเช่นกัน

ถ้าถามว่ามันถึงขนาดต้องเปลี่ยนรูปแบบการพิมพ์หรือใช้งานเลยมั้ย ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ส่วนความลึกแต่ละแบบแนะนำให้กับการใช้งานดังนี้ (ไม่เสมอไปนะแล้วแต่คน)

• 1.5mm (สีน้ำเงิน) เหมาะสำหรับการเล่นเกม เพราะปุ่มตื้น ทำให้ส่งคำสั่งแล้วออกเร็วกว่าปกติ
• 2.2mm (สีเขียว) ระยะกดเท่าๆ Mechanical Keyboard ตัวอื่น ใช้ได้หลากหลายโอกาส
• 3.0mm (สีแดง) สำหรับคนที่ต้องการให้ตัวอักษรออกตอน Bottom Out อย่างเดียว ไม่อยากให้ปุ่มลั่นง่ายๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกดแป้นให้สุดบ่อยๆ

แต่ที่เจ๋งคือ สมมติเราเล่นเกมที่ลำดับการกดปุ่มสำคัญ เช่น เกม Fighting เราสามารถเซ็ทปุ่มที่กดก่อนให้ตื้นกว่า (สมมติ 1.5mm) และเซ็ทปุ่มที่ตามให้ลึกกว่า (2.2mm หรือ 3.0mm) แบบนี้โอกาสคอมโบหลุดก็จะน้อยลงมหาศาลเลยครับ แบบเนี้ยช่วยได้เยอะเลย

แสงสีเสียง RGB

ความแปลี่ยนแปลงของเจ้า Realforce RGB ที่แตกต่างจาก Realforce ที่ผ่านมาก็คือการที่มันมีไฟ RGB นี่แหละ (อ้าว ก็จริงอะ)

โดยการปรับไฟนั้นส่วนใหญ่ทำโดย Software บนคอมพิวเตอร์ครับ ถ้าไม่มี Software สามารถเปลี่ยนโหมดไปมา ปรับความสว่าง อะไรงี้ได้ แต่ตั้งค่าแสงเองไม่ได้ครับ ส่วนความสว่างปรับได้สามระดับ ซึ่งพูดตรงๆ ว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไร ไฟนี่เปิดสว่างจนแยงตาไม่ได้ น่าจะเพราะกำหนดมาไม่ให้สว่างเกินไปนั่นเอง

โทนสีของไฟ ผมรู้สึกได้เลยว่าคล้าย Ducky มาก จนไม่แน่ใจว่าเค้ามีการร่วมมืออะไรกันในการพัฒนาหรือไม่ (มันมีรุ่น Ducky x Realforce ด้วยนะ) แต่รู้สึกกลิ่นอาย Ducky ออกมาอยู่เหมือนกันครับตั้งแต่ Keycaps ละ

กลับมาที่โหมดไฟกัน โหมดไฟหลักๆที่เห็นก็จะมีตามนี้ครับ

• ไฟนิ่งพื้นฐาน – 7 สีพื้นฐาน + รุ้ง RGB 1 สี แก้ไขไม่ได้ กดและเปลี่ยนไปมาด้วย “FN + Ins”
• ไฟนิ่งพื้นฐานแบบตั้งค่าเอง (User Profile) – ตั้งได้ 3 รูปแบบใน Software บนคอมเท่านั้น ปรับไปมาระหว่าง 3 แบบได้โดยกด FN + PgUp (ที่เจ๋งคือตั้งไฟแสดงสถานะมุมขวาบนได้ด้วยอ่ะ พวก Num Lock, Scroll Lock โคตรเท่เลย)
• Demo Mode – ไฟโหมดหน้าร้าน โหมดไฟจะวนเปลี่ยนไปมาเรื่อยๆ กดได้ด้วย FN + PgDn
• Stop Effect – ปิดไฟ…. อือ แค่นั้นแหละ ปิดได้ด้วย FN + End

โหมดไฟด้านล่างนี้เปลี่ยนไปมาด้วยการกด FN + Home

• ไฟแบบติดเมื่อกดปุ่ม พื้นหลังไฟดับ – ตั้งสีพื้นฐานได้ 1 สี และตามรูปแบบที่เราตั้งไว้ไฟนิ่ง (User Profile) โดยตั้งจากคอมเท่านั้น
• ไฟแบบติดเมื่อกดปุ่ม พื้นหลังไฟขาว – เหมือนข้างบน แต่ไฟขาวเปิดทิ้งไว้ ตั้งจากคอมเช่นกัน
• Rainbow Wave – คลื่นไฟ RGB สีรุ้ง ปรับอะไรไม่ได้
• Shooting Star – ไฟพุ่งจากซ้ายไปขวา ตั้งสีพื้นฐานได้ 1 สีและตามไฟนิ่งที่ตั้งไว้ (User Profile)
• Color Bar – เป็นแท่งไฟวิ่งทีละแถวจากบนลงล่างวนสีไปเรื่อยๆ
• Random Lighting – ไฟจะวิบวับกระจายไปมาวนสีไปเรื่อยๆ แบบสุ่ม ตั้งไรไม่ได้เลย

ส่วนรูปแบบไฟแนะนำให้ดูในวิดีโอโดยคลิกด้านล่างนี่เลยครับจะเซ็ทเวลาไปจุดที่เริ่มรีวิวเรื่องไฟให้แล้ว

โหมดไฟนั้นแม้ว่าจะมีเยอะ แต่การปรับแต่งยังค่อนข้างสู้ค่ายที่เน้นไฟเต็มรูปแบบเหมือน Corsair หรือ Razer ไม่ได้ครับ แม้ว่าจะเป็น RGB 16.8 ล้านสีเหมือนกัน แต่ของ Realforce RGB จะตั้งทิศทาง จังหวะอะไรได้ไม่มากเท่า

แต่การที่ตั้งไฟแยกปุ่มได้อิสระและเซ็ทได้ 3 แบบเป็นอะไรที่เซ็ทง่ายและอิสระเหมือนกัน เพราะผสมสีเองได้เลย ไม่ใช่เป็นแค่ปรับได้ 7 สีเหมือน Mechanical Keyboard หลายๆ รุ่น

โดยสรุปคือฟังก์ชั่นไฟ RGB คือมีมาให้ได้เลือกใช้กัน แต่ไม่ได้เป็นที่สุดของสายนี้ ถ้าใครหวังจะแต่งไฟรัวๆ หนักๆ อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่โดนใจนัก (แต่เอาจริงคนเล่น Realforce ก็ไม่ได้แคร์ตรงนี้เป็นหลักอยู่แล้วล่ะ)

Topre แบบ RGB ก้าน MX

Realforce ปกติจะใช้ก้าน Topre แบบ Original ที่เป็นก้ามกลมๆ แคปจะต้องใช้แบบก้านกลม หลังจากนั้นก็พัฒนามาเป็นแบบก้านที่ใส่กับ Keycap Cherry MX ได้แต่ใช้อยู่ในรุ่นเดียวคือ CM Storm Novatouch ก่อนที่จะเลิกผลิตไป

ใครยังอ่านแล้วไม่เข้าใจว่า Topre ต่างจาก Mechanical Keyboard ที่ใช้สวิตช์แบบ MX ยังไง เชิญจิ้มกันได้ครับ แนะนำให้อ่านก่อนก็ดีนะจะได้เก็ทภาพ บทความนี้คงไม่นั่งมาอธิบาย Topre ละ

(เกร็ดเล็กน้อย: เมืองนอกมีหลายคนยอมซื้อ Novatouch มาแล้วชำแหละทิ้งเอาแค่ตัวบอดี้ก้านไปใส่แปลงใส่ใน Realforce ปกติด้วยนะเอ้อ โคตรทุ่ม ก่อนที่จะเริ่มมี Topre Clone เข้ามาตลาด)

คราวนี้ Topre นำกลับมาเองเลยใน Realforce RGB มาทั้งก้านแบบ MX และหลอดไฟ RGB (เป็น SMD LED แปะบอร์ดมาเลย) ออกด้านบนของตัวบอดี้ของสวิตช์ครับ ดูจากแคปจะเห็นว่าไฟลอดเยอะด้านบน ด้านล่างไฟไม่ค่อยออกเท่าไร

โดย Realforce RGB มาพร้อมกับน้ำหนัก 45g เท่ากันทั้งคีย์บอร์ดครับ แต่ฟีลลิ่งการกดรู้สึกแปลกไปจาก Topre ที่ผมใช้ใน Realforce 87U, HHKB หรือ Leopold FC660C พอสมควร

ผมรู้สึกได้ถึงความนุ่มขึ้น ความกระด้างกระชับลดลง การลื่นไหลของการพิมพ์ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกของการ Bottom Out แล้วดัง ต๊อกๆๆ (Thock) กลับหายไป ได้ความรู้สึกแบบ ปุ๊กๆๆ เสียงเบาลงนุ่มขึ้นมาแทน

ไม่แน่ใจว่าเพราะเกี่ยวกับการเปลี่ยนก้านเป็นแบบ MX หรือวัสดุหรือรูปแบบอะไรถึงต่างกัน แต่รู้สึกได้ว่าต่างกันจริงๆ อาจจะเป็นทิศทางการออกแบบใหม่ที่ทาง Realforce เน้นไป

ถามว่าเป็นประสบการณ์พิมพ์ที่แย่มั้ย บอกเลยว่าไม่ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลขึ้น และเชื่อเลยว่าน่าจะมีคนชอบมากกว่า Realforce ปกติด้วยซ้ำ แต่ส่วนตัวผมเอง ชอบคนละแบบครับ Realforce RGB ยังให้การตอบสนองอันเป็นเอกลักษณ์ของ Topre ที่รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มคุณหนูขึ้นแทน

อื่นๆ

อีกอันที่ผมว่าเจ๋งดีคือสามารถ Lock Keys แบบเลือกได้อิสระว่าจะ Lock ปุ่มไหน พอกดแล้วก็กลายเป็นสีแดง เปิด Lock Keys ปุ๊ปจะกดปุ่มนั้นไม่ได้เลย โดย Mechanical Keyboard อื่นๆ ชอบจะมีแค่ Windows Lock แต่อันนี้ Lock ได้หมดเลย

โดยเฉพาะบางทีกำลังอัดเกมมันส์ๆ อยู่ ไปกด โดน Alt + F4 หรือ F1 เรียกนู่นนี่นั่นขึ้นมาปุ๊ปเกิดอาการเหวอก็จะไม่มีอีกต่อไป อะไรแบบนั้น ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกเจ๋งดีนะ

ไม่มี Macro ที่สามารถตั้งได้เลยจากตัว Keyboard หรือตั้งได้จาก Software ต้องหาทางใช้ Keymaps กันเอาเอง ก็นับว่าไม่สะดวกเหมือนกันสำหรับคนที่ชอบใช้ Macro เยอะๆ

ปุ่มเพิ่มลดเสียงด้านมุมขวาบนใช้งานสะดวกดี พอเป็นปุ่มแยกแบบใช้ Keycaps ก็สามารถหามาเปลี่ยนให้สวยๆ ได้ด้วย

สรุป

ข้อดี

• Topre ใส่แคป Cherry MX ได้
• บอดี้งานประกอบค่อนข้างดี Made in Japan
• เป็น Topre ตัวแรกที่มีไฟ
• Actuation Point Changer ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ได้ดี

ข้อเสีย

• โหมดไฟยังน้อยไปนิดนึง
• สายไม่เป็นสายถัก
• ไม่แถม Puller หรือแคปเสริมอะไรมาให้เลย

โดยรวม

เป็น Mechanical Keyboard คุณภาพเยี่ยมประกอบญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสวิตช์ Topre และต้องการเปลี่ยน Keycaps ได้ซึ่งก่อนหน้านี้ Realforce ไม่สามารถทำได้ รวมทั้งต้องการลูกเล่นไฟ RGB ตามสมัยนิยมด้วย แต่ก็ยังไม่ได้มีฟังก์ชั่นไฟเต็มรูปแบบเท่าไรนัก แต่ก็มากพอสำหรับคนเซ็ทไฟทั่วๆไป การใช้งานด้วย APC สามารถทำให้ใช้ได้ทั้งพิมพ์งานหรือเล่นเกม อย่างสะดวก นับเป็นอีกตัวหนึ่งถ้าให้คำนิยามว่า “เจ็บแต่จบ” ได้ทีเดียว

ก็จบกันไปสำหรับรีวิว Realforce RGB นะครับผม เป็นตัวที่คนที่อยากได้ Topre แบบที่ต้องการเปลี่ยน Keycaps ได้ต้องหามาจับจองเป็นเจ้าของครับ โดยประเทศไทยผู้นำเข้า Topre มีบริษัท IT Works Solution จำกัด เป็นผู้นำเข้าครับ

ส่วนทางร้านจำหน่ายจะเป็นร้าน KEMISTRY จัดจำหน่ายอยู่ที่ราคา 8,990 บาท หลายคนอาจจะคิดว่าแพง แต่จริงๆแล้ว Mechanical Keyboard ที่ใช้ Topre ก็ราคาประมาณนี้แหละครับเพราะมาด้วยไฟ RGB แบบเต็มสูบเลย

ใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่ http://kemistry.in.th หรือติดต่อไปพูดคุยกับร้านได้ที่ Facebook Page https://www.facebook.com/VRKEMISTRY/ ได้เลย

คิดเห็นอย่างไร มีคำถามเชิญได้ที่เพจ https://www.facebook.com/KBGangster/ ได้ครับ สนับสนุนกันเยอะๆ ไว้ผมจะได้มีสปอนเซอร์เอาของมารีวิวเนอะ (น่าน)