รีวิวหลังๆ ผมจะพยายามทำเป็นแบบวิดีโอมาให้ดูกันด้วยนะครับ ใครใคร่ดูแบบวิดีโอ ก็เชิญกดดูได้เลยนะครับ แต่เพื่อความเข้าใจแบบเต็มๆ แนะนำให้ทั้งดูทั้งอ่านเลยจะได้ข้อมูลที่แน่นปึ้กที่สุดจ้า
ถ้าพูดถึง Oker หลายคนมักจะคิดถึงแต่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ราคาประหยัดที่ขายตามร้านอุปกรณ์ทั่วไป แต่หลังจากที่ Oker ได้ทำการลุยตลาด Mechanical Keyboard ก็ได้โด่งดังเป็นพลุแตกจากเจ้า K84 ในส่วนของ Mechanical Keyboard คุณภาพดีราคาประหยัด
เหตุผลคือ Oker ได้ไปสั่งทำ OEM จากผู้ผลิต Mechanical Keyboard คุณภาพดีราคาประหยัดจากจีนที่มีชื่อว่า Motospeed นั่นเอง เจ้านี้ได้รับรีวิวตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากหลายสำนัก และหลายๆ แบรนด์ในหลายๆ ประเทศก็ได้ OEM จาก Motospeed กันเยอะครับ (ล่าสุดก็ Aukey)
โดยวันนี้ที่จะมารีวิวเป็น Mechanical Keyboard Outemu Blue Switch แบรนด์ Oker รุ่น K88 ซึ่งเป็น TKL หรือแบบไม่มี Numpad รุ่นแรกของ Oker ที่มาพร้อมไฟ RGB แบบเต็มสูบครับ และแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่างไร ทำไมผมถึงอยากได้ ตามมาดูกันครับ
ตัวกล่องก็หน้าตาเหมือน Oker รุ่นหลังๆ หน้าตากล่องแทบจะไม่ต่างกัน มาพ้รอมกับตัวละครจากเกมที่ไปหยิบยืมมาแปะเช่นเคย แต่ที่แปลกตาขึ้นหน่อยคือ เป็นโลโก้ Oker แบบใหม่แล้วครับ ซึ่งผมชอบกว่าแบบเก่านะ ดูทันสมัยดี

แกะกล่องออกมาก็จะเจอ K88 อยู่ในถุงโฟม พร้อม Keycap Puller แบบพลาสติก และคู่มือเล่มนึง ไม่ได้มีของแถมพิสดารอะไร ตัวคีย์บอร์ดจะมีกรอบใส หุ้มด้านล่างอีกชั้น เพื่อป้องกันการขีดข่วนในบอดี้ส่วนล่างนั่นเอง
โดยทรงของเจ้า K88 เป็น TKL (Tenkeyless) หรือก็คือไม่มี Numpad นั่นเอง ก็เลยทำให้ขนาดเล็กลงและกระชับขึ้นพอตัวครับ ตัวกรอบบอดี้ด้านบนทำมาจากพลาสติกแข็งดูค่อนข้างดีเหมือนกัน แต่ฝาล่างเป็นพลาสติกใสทั้งอัน

ไอ้การที่บอดี้เป็นพลาสติกใสนี่แหละครับ คือทีเด็ดของเจ้า Oker K88 เลย เพราะเจ้ารุ่นนี้มันมีไฟ RGB นอกจากด้านบนแล้ว มันยังมีไฟ Underlight ออกมาด้านล่างอีกด้วยครับ กำลังเป็นสมัยนิยมที่แอบทำกันมาเลย
สายเจ้า K88 เป็นแบบถอดไม่ได้นะครับ แต่เป็นสายถักหนาอยู่เหมือนกัน ดูโอเคดี ขาตั้งเป็นแบบยกขึ้นมาระดับเดียวสองด้าน ด้านล่างไม่มีอะไรแปลกประหลาด

พอเราเสียบเข้าไปไฟก็จะติดขึ้นมา มีให้เล่นหลายโหมดเยอะอยู่เหมือนกัน ครับ โดยปรับได้จาก FN+Insert (M1) เป็นการปลี่ยนโหมด และ FN+ Delete (M2) เป็นการเปลี่ยนสีหรือทิศทางในแต่ละโหมดนั้นๆ ซึ่งก็จะคล้ายๆใน K84 หรือ K95 ครับ
หลักๆ ก็จะมีพวก ไฟนิ่ง โหมด Breathing โหมด Rainbow Wave อะไรก็ว่าไป ลองดูในคลิปจะได้เห็นภาพกว่าเนอะ

ไฮท์ไลท์ของ K88 คือไฟด้านล่างที่เราจะเล่นได้ค่อนข้างเยอะด้วย เช่น FN+Page Up (M1 ที่มีลูกศรล้อม) ก็จะเปลี่ยนโหมดไฟด้านล่าง และ FN+page Down (M2 ที่มีลูกศรล้อม) ก็จะเปลี่ยนไฟในแต่ละโหมดเช่นกัน

โดยที่ไฟนั้นไม่ได้เป็นแค่ไฟด้านใต้หลอด LED ไม่กี่จุดอย่างเดียว แต่เป็นแถบไฟวิ่งไปรอบตัวเลยครับ ออกถึงด้านข่างทะลุไปด้านหลังเลย ถ้าวางไว้ในห้องมืดๆหน่อยเนี่ยแสงระเรื่อทุกทิศทาง มีความเท่อย่างแท้จรืง

นอกจากนี้เราปรับความเร็วในบางโหมดได้โดยกด FN กับ + – เพื่อเปลี่ยนความเร็วได้เลย โดยจะมีแบบทั้งค่อยๆกระพริบไป หรือพอปรับเร็วๆ จะดูเหมือนไฟวิ่งได้เนียนตามาก

สวิตช์ที่ใช้เป็น Outemu Blue ตามสมัยนิยม ให้ฟีลลิ่งการพิมพ์ที่ดังและแข็งตามสไตล์อยู่แล้ว ใครชอบเสียงแข็งๆ ดังๆ กดมันส์ๆ แนะนำครับ ในส่วนของ Keycaps จะเป็น ABS Double Shot ฟอนต์สไตล์เกมมิ่งเหมือนกับ Oker K84/K95 หรืออีกหลายยี่ห้อ
จุดที่อยากติคือ งานสกรีนไทยทำได้ประหลาดมาก ตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน แม้ว่าตัวอักษรจะสกรีนได้คม แต่เจอแบบนี้มันน่าหงุดหงิดอยู่เหมือนกันนะ เหมือนงานมันไม่เนียนเลย

สรุป
ส่วนที่ชอบ
- ไฟ RGB แบบจัดเต็มทั้งตรงแป้นพิมพ์ และตรงด้านล่างอลังการมาก
- Outemu Blue ให้เสียงพิมพ์ที่แข็งและสนุกดี
- TKL ที่ไฟเต็มและราคาไม่แรง หาได้ไม่เยอะในไทยแต่ Oker ก็มีให้
ส่วนที่ไม่ชอบ
- ฟอนท์ไทยสกรีนได้ไม่เท่ากัน ดูขัดใจมาก
- ฝาล่างเป็นพลาสติกใสมีโอกาสเป็นรอยและเปื้อนง่ายสูง
รวมภาพ
โดยรวมถือว่าเป็น Mechanical Keyboard แบบ TKL ที่ราคาย่อมเยาว์ พร้อมกับฟังก์ชั่นลูกเล่นไฟแบบจัดเต็มอยู่เหมือนกัน ในราคาที่ไม่แรงมากอยู่ที่ 1,690 บาทครับ ส่วนตัวผมเองไปซื้อมาจากร้าน Envisimple ครับ (ดูบทความไปเยี่ยมร้านได้ที่นี่)
ใครคิดเห็นอย่างไรเชิญได้ที่เพจ นักเลงคีย์บอร์ด มาพูดคุยกันได้จ้า
0 comments on “#MechReview Oker K88 เล็กสั้นขยันปล่อยแสง”