หลายคนที่เริ่มเข้าสู่วงการ Mechanical Keyboard มาสักพัก คงเริ่มได้ยินแบรนด์จากแดนซามูไรนามว่า Filco กันบ้าง โดยเฉพาะคนที่สนใจ Mechanical Keyboard ที่ไม่ใช่ยี่ห้อ Gaming Gear ทั้งหลาย
Filco นั้นเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น โดยเน้นผลิตคีย์บอร์ดงานประกอบคุณภาพสูง และหน้าตาเรียบง่ายเหมาะสำหรับกับการใช้งานได้หลายโอกาสครับ มาพร้อมกับรูปทรงเรียบๆ แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
และนอกจากรุ่นธรรมดาทั่วไปแล้ว Filco จะมีการออกรุ่นพิเศษออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในรอบนี้เป็นเจ้าตัวนี้ครับ Filco Majestouch 2 Camouflage-R ที่มาพร้อมลายพรางทหารแบบ Multicam และ Keycaps ด้วยฟอนต์แบบทหารเต็มเหนื่อย ถูกใจคนรักแนว Military กันล่ะ
โดย Filco เคยผลิตลายทหารออกมาแล้วหนึ่งครั้งในรุ่น Camouflage แต่ยังใช้แคปสีดำแบบรุ่นปกติ มารอบนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มกว่าเดิมจริงๆ

โดยรอบนี้ผมซื้อเป็น Majestouch 2 Camouflage-R TKL พร้อมกับ Cherry MX Silent Switch (Pink Switch) โดยซื้อมาจากร้าน VR KEMISTRY สนนราคาอยู่ที่ 4,590 บาทสำหรับรุ่น TKL และราคา 5,290 บาทสำหรับ Full Size 104 ปุ่มครับ ต้องบอกเลยว่า Filco ล้อทหลังๆ ราคาดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยในไทย ไม่ต้องหาหิ้วกันแล้วยังได้เลยครับ
เรามาดูกันดีกว่าว่ามันเจ๋งยังไงครับ
แกะกล่อง

ตัวกล่องของ Filco Majestouch 2 Camouflage-R นั้นต่างจากกล่อง Filco ปกติที่จะใช้สีฟ้า มาเป็นสีเขียวแบบกล่องทหาร พร้อมฟอนต์ที่พิมพ์ลายดูโคตรทหารเต็มรูปแบบ ดูผ่านๆ นึกว่ากล่องใส่ปืนอะไรแบบนั้น
อุปกรณ์ที่มีในกล่องให้ก็จะเป็น หัวแปลง USB/PS-2, Puller แบบลวดเหล็ก (ดีมาก) และแคปชุด WASD สีเขียวเข้มไว้เปลี่ยนสำหรับขา FPS ครับ (ลายทหารก็ต้องเกมยิงกันสินะ) และของแถมที่แปลกตาไปอีกอย่างเป็นพลาสติกสี่เหลี่ยมๆ คือตัวล็อคปุ่มครับ โดยจะเป็นการสอดเค้าไปใต้ปุ่มล้อมสวิตช์ไป จะทำให้ปุ่มกดไม่ได้ครับ ลองดูวิธีการใส่หรือยังไงในคลิปน่าจะเห็นภาพกว่าครับ

ที่ผมชอบคีย์บอร์ด Filco นะ แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยคือการที่เค้ามีฝาพลาสติกครอบสินค้ามาให้เนี่ยแหละ นอกจากกันกระแทกแล้ว เรายังเอามาใช้ครอบกันฝุ่นเวลาวางทิ้งไว้อย่างดีเลย
ตัวคีย์บอร์ด มาพร้อมกับสายถอดไม่ได้ ที่คราวนี้ทำมาเป็นสีเขียวขี้ม้าเหมือนสีอุปกรณ์ทหารจริงๆ ยอมรับว่าเก็บรายละเอียดความสวยงามได้ค่อนข้างดีครับ

คุณภาพงานประกอบเรียกได้ว่าแน่นปึ้กดูดีครับ แม้ว่าจะเป็นงานพลาสติกแม้ว่าจะทรงดูเรียบๆ แต่ด้วยลายทหารให้ความดุดันทนทานได้พอสมควรเลยทีเดียว ตัวบอดี้พ่นสีมาค่อนข้างสวยงาม ใช้มือลูบแล้วสากๆ หน่อย งานพ่นสีจะไม่ได้คมกริบมากครับ แต่ไม่แย่ครับ

Keycaps ที่ให้มาเป็น ABS ปรินท์ด้วย UV Printing เป็นพลาสติก ABS ที่คุณภาพดี แต่ก็ไม่ได้หนาเป็นพิเศษแต่อย่างไร ใช้ๆ ไปคิดว่าคราบเหงื่อและไขมันจากนิ้วก็ทำให้ตัวอักษรหม่นและขึ้นเงาได้เหมือน Majestouch ธรรมดา อ้อตัวนี้ไม่มี Backlight นะจ้ะ
ในส่วนของด้านล่างนั้นก็โล่ง มาขาพับ 1 ระดับให้แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษครับ
Cherry MX Silent Switch (Pink Switch)
สวิตช์เป็น Cherry MX Silent Switch หรืออีกชื่อนึงคือ Pink Switch ครับ โดยจะเป็นสวิตช์ Linear จังหวะเดียวเหมือน Red แต่มาพร้อมกับความเงียบที่มากขึ้นครับ เสียงกดจะออกแนว หนุบ หนุบ มากกว่า ป๊อก ป๊อก แบบที่เราคุ้นกัน (ลองดูคลิปประกอบนะ)

ใครอยากทำความเข้าใจเรื่อง Cherry MX Silent Switch เพิ่มเติมเชิญคลิกได้ที่ตรงนี้ได้เลย
ฟีลลิ่งการกดจะเหมือน Red แต่ว่าจะตื้นกว่าเล็กน้อยและรู้สึกเสียงนุ่มๆ กว่าครับ ความแข็งเวลาที่เรา Bottom Out ที่ดังแป้ก แป้ก จะหายไปเหมือนเจอยางแข็งๆ รองรับอยู่นิดหน่อย ซึ่งให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดีเหมือนกัน ฟีลลิ่งมันจะไม่เหมือน O-Ring ด้วยครับ เพราะ O-Ring เราจะรู้สึกตึงๆตรงกลาง แต่อันนี้จะตึงมาจากด้านล่าง
ส่วนตัวแล้วผมเป็นแฟนแบบ Tactile มากกว่า ถ้ามี Tactile แบบ Silent ก็น่าจะสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยฟังก์ชั่นด้านมัลติมีเดียก็ยังมาแบบพื้นฐานครับ ปรับลดเสียง หยุดเล่นกรอเพลงอะไรแบบนั้น ไม่ได้มีอะไรเด่นดวงมากมาย แน่นอนว่า Macro อะไรไม่มีกับเขาหรอก
สรุป
จุดที่ชอบ
- ลายพรางทหารโดนเด่นสะใจ
- งานประกอบแน่นหนาดูดี
- แคปที่สกรีนแบบลายทหารมาให้ด้วย
จุดที่ไม่ชอบ
- Costar Stabilizer (ถอดใส่ลำบาก)
- แคป ABS แม้ว่าจะคุณภาพโอเคแต่สกรีนตัวอักษรไม่คมมาก
อัลบั้มรวม
ก็จบกันไปสำหรับรีวิวนี้ ใครมีคำถามอะไรสงสัยก็เชิญติดต่อสอบถาม หรือมาพูดคุยกันได้ที่เพจ นักเลงคีย์บอร์ด กันได้เลยครับผม
เขียนรีวิวได้ดีมีคุณภาพเหมือนเดิมเลยครับ มีทั้งแบบคลิปกับบทความ นับถือในความขยันจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ รูปคีย์บอร์ดเยอะเห็นแล้วฟินดี 🙂
ถูกใจถูกใจ