ถ้าพูดถึง Mechanical Keyboard ขนาด 60% หรือแบบ Mini เชื่อว่า Poker เป็นหนึ่งในชื่อที่ขึ้นมาก่อนอันดับแรกๆ แน่นอน
New Poker 2 เป็นสินค้าของบริษัท ikbc ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Vortex จึงบอกได้เลยว่าคุณภาพผลิตนั้นถือว่าดีทีเดียวครับ ในส่วนของประวัติความเป็นมาของ Poker และ ikbc ลองอ่านบทความ อ่านบทความความสัมพันธ์ ikbc กับ Vortex ทีนี

มาจนถึงตอนนี้ Poker ก็ได้ออกรุ่นใหม่มาชื่อว่า New Poker 2 เพราะเหมือนเป็นการเอา Poker 2 มาแต่งหน้าแต่งตัวทำใหม่นั่นเอง ในขณะที่ POK3R หรือ Poker 3 (ผมเคยรีวิวช่วงเปิดเวปใหม่ๆ จิ้มเพื่ออ่าน) เป็นพอดี้โลหะครับ
ผมได้ New Poker II ตัวนี้จาก Massdrop ครับ จริงๆ ได้มาสักพักแล้วล่ะและได้เขียนรีวิวไปแล้วรอบนึง แต่ข้อมูลดันหายเลยดองยาวเลย ได้เวลาก็มาเขียนใหม่ตอนนี้อีกที

Specs
- New Poker II (White)
- Size: 60% (Mini)
- Brand: ikbc
- Backlit: No
- Cherry MX Brown
- คีย์แคปแบบ PBT สลักอักษรด้วยเลเซอร์ (Laser Engraved)
- พอร์ท USB-C แบบถอดได้ พร้อมระบบจัดการสาย 3 ทิศทาง
- DIP Switch ไว้เปลี่ยนโหมด
- Made in China, Designed in Taiwan
Unbox แกะกล่องซักนิด

ตัวกล่องจะเป็นดีไซน์แบบรุ่นใหม่เหมือนสินค้าอื่นของ ikbc ใหม่ๆครับ ตัวอักษรเท่ๆ หน่อยพร้อมกล่องดำๆ คิดว่าทิศทางกล่องของ ikbc ใหม่ๆ คงจะเป็นแบบนี้แหละ
คลิปตอนแกะกล่อง สมัยนู้น แกะไว้นานแล้วครับ
แกะกล่องออกมาเราจะเจอ คู่มือ อยู่ และมีชุด Keycaps เสริม Shift Alt Ctrl 3 สี พร้อมที่ดึงแบบลวดมาให้ครับ ซึ่งถือว่าเจ๋งดีเลยทีเดียวที่มีแคปแต่งชุดเล็กๆ มาให้ด้วย เป็น Double Shot PBT คุณภาพดีอยู่เลย

จุดที่น่าสนใจอันนึงคือเจ้า New Poker II มาพร้อมกับพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C ครับ ซึ่งน่าจะเป็นตัวแรกๆ ในวงการ Mechanical Keyboard เลยครับที่ใช้ USB-C
นอกจากนี้สายเคเบิลที่ให้มามีสองเส้น เส้นหนึ่งเป็นสายถักมาพร้อมกับ USB-C ด้านหนึ่งอีกด้านเป็น USB แบบปกติ ส่วนอีกเส้นเป็นสายยาง เป็นหัว USB-C สองด้านครับ

ดังนั้นที่น่าสนใจคือคอมพิวเตอร์หลังๆ เริ่มมีการให้ Port USB-C ติดมาด้วย (โดยเฉพาะ Notebook) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีเหมือนกันที่ทาง ikbc ให้สายมาสองแบบครับ
โดยเจ้า New Poker II จะนอนอยู่ในกล่องเล็กภายในอีกชั้นพร้อมคลุมด้วยถุงพลาสติกเหนียว ก็ค่อนข้างทำบรรจุภัณฑ์ได้สวยงามและปกป้องได้ดีพอสมควร
ตัว Keyboard
ตัว New Poker 2 มาพร้อมกับบอดี้พลาสติกคุณภาพดี พร้อมแคป PBT แบบยิงเลเซอร์ งานพลาสติกค่อนข้างหนากดสนุกใช้ได้เลย ที่ผมสั่งรอบนี้เป็น Cherry MX Brown ครับ เสียงการพิมพ์ที่ได้ยินจะค่อนข้างแน่นหนากระชับดี ไม่โปร่งๆเหมือน Mechanical Keyboard พลาสติกตัวอื่น

ตัว New Poker II จะไม่มีขาตั้งแบบปรับระดับได้นะครับ แต่จะมีที่รองเป็นยาง 4 มุมแทน เป็นเรื่องค่อนข้างปกติของ Keyboard 60% อยู่ละ ลวดลายด้านล่างเป็นลายออกแนวคณิตศาสตร์หน่อย ดูเก๋ไก๋ใช้ได้เลยล่ะผมว่า
พอร์ท USB-C จะอยู่ใต้คีย์บอร์ดไม่ได้อยู่ด้านหลังเหมือน POK3R ละ และสามารถจัดการให้สายสามารถออกได้สามทางเลยทีเดียว นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าที่เปลี่ยนมาเป็น USB-C เพราะทำให้สายสามารถเชื่อมต่อกลับด้านได้นั่นเองครับ
คุณภาพงานผลิตพลาสติกของตัวบอดี้นั้นค่อนข้างแน่นหนาดีครับ ไม่มีเสียงโปร่งๆ กลวงๆ เวลาเคาะเลย พอมาพร้อมกัน Keycaps PBT ที่คุณภาพดีหน่อยเวลาพิมพ์เลยให้เสียงที่ค่อนข้างกระชับและไพเราะครับ

ตัวนี้มาพร้อมกับ Cherry MX Brown ซึ่งให้สัมผัสการพิมพ์ที่ค่อนข้างดี และพิมพ์สนุกครับ ซึ่งคงไม่ต้องคอมเมนท์อะไรมากอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่า Mechanical Keyboard ใหม่ๆ Cherry MX คุณภาพดีกว่าแต่ก่อนเข้าไปอีก คือลื่นและการสู้นิ้วทำได้ดีกว่าเดิมครับ
Function
ส่วนที่ทำให้ Poker Series เจ๋งคือการที่เราสามารถกด FN เพื่อเข้าถึงเลเยอร์อีกชั้นหนึ่งได้นั่นเองครับ นั่นทำให้ในทางเทคนิคแล้ว แม้ว่าจะมีขนาดแค่ 60% เราก็ยังสามารถพิมพ์ได้ทุกปุ่มแบบไม่ตกหล่นเลย (อาจจะไม่ชินเท่านั้น)
เช่น ถ้าเราต้องการใช้ปุ่มทิศทาง เราก็แค่กด FN+ WASD ก็จะกลายเป็นปุ่มทิศทางที่พร้อมให้เราใช้งานได้ทันทีครับ ซึ่งเจ้าโหมดการทำงานรองพวกนี้ ได้มีการยิงเลเซอร์สลักไว้ข้างๆ Keycaps ทั้งหมดครับ ดังนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดจริงๆ

แต่สิ่งที่เจ๋งจริงๆของ New Poker II (หรือ Poker รุ่นหลังๆ) คือการที่มัน Programmable on hardware หรือสามารถเซ็ทปุ่มอิสระได้บนตัวมันเลยโดยไม่ต้องใช้ Software ครับ ดังนั้นเราจึงสามารถตั้งค่าการทำงานของปุ่มได้อิสระเลย โดยการใช้ปุ่ม PN เข้ามาช่วยครับ ผมจะไม่ลงรายละเอียดการตั้งค่าในรีวิวนี้นะครับ สามารถอ่านได้จากคู่มือหรือทำตาม Guide นี้ได้เลย
ส่วนต่อมาคือ DIP Switch ที่อยู่ด้านใต้ของเจ้า New Poker II ก็ทำให้มันเจ๋งครับ โดยเจ้า Dip Switch นี้เราสามารถสลับเพื่อเปิดหรือปิดฟังก์ชั่นบางอย่างได้ ตามนี้เลย
- DIP Switch ตัวที่ 1 และ 2 ใช้ในการปรับ Layout Keyboard (รองรับ QWERTY, Dvorak, Colemak และ Workman) อ่านเรื่อง Layout Keyboard ได้ที่นี่
- DIP Switch ตัวที่ 3 สลับปุ่ม FN & PN
- DIP Switch ตัวที่ 4 เปลี่ยน Shift / FN / PN / Ctrl ฝั่งขวามือ เป็นปุ่มทิศทาง (ใช้งานได้ดีเลยล่ะ แต่ใช้ FN ไม่ได้แทน
- DIP Switch ตัวที่ 5 สลับตำแหน่ง Caps Lock กับ Ctrl ซ้าย
- DIP Switch ตัวที่ 6 สลับ Win กับ Alt (เหมาะมากเวลาไปใช้กับ macOS หรือ iOS ครับ เพราะ Win จะกลายเป็น Command Key)
นี่คือจุดที่เจ๋งของ Poker ครับ คือการที่เป็น Mechanical Keyboard ที่ออกแบบจากคนในวงการที่ชื่นชอบ Mechanical Keyboard จริงๆ เลยออกแบบมาให้เล็กแต่มีฟีเจอร์เยอะ เหมาะสำหรับคนใช้เป็น Daily Driver จนถนัดแล้วหยิบไปใช้กันที่ไหนก็ได้นี่แหละครับ


สรุป
ส่วนที่ชอบ
- ikbc งานผลิตค่อนข้างดี คุณภาพคุ้มค่า
- Layout 60% แบบนี้หา Keycaps มาแต่งง่าย
- ปรับสายออกได้ 3 ทิศทาง
ส่วนที่ไม่ชอบ
- USB-C ใหม่ก็จริง แต่หาสายลำบาก
- Keycaps น่าจะ Dye-sub หน่อยนะอย่างน้อย

โดยรวมเป็น Mechanical Keyboard ที่ดีอีกตัวนึงเลยสำหรับคนที่สนใจจะลองหา 60% แบบมาตรฐานมาลองใช้ดู โดยต้องการ Layout แบบมาตรฐานเผื่อต้องการจะเปลี่ยน Keycaps ในอนาคต
ส่วนการใช้งานจะเอาเป็น Daily Driver (ใช้เป็นประจำทุกวัน) ก็ได้ ถ้าสามารถฝึกได้จนคล่องเพราะว่ามีปุ่มค่อนข้างครบ (แต่ต้องกด FN ให้คล่อง) หรือเอามาสำรองกรณีอยากใช้นอกบ้านหรือหิ้วไปไหนก็ไม่ได้แย่เลยเพราะสามารถ Program คีย์ลงไปได้เลยไม่ต้องง้อ Software ครับ
อัลบั้มรวมภาพ
หลังจากอ่านบทความนี้แล้วหากมีคำถาม ข้อสงสัย หรืออยากมาพูคคุยกันก็เชิญได้ที่เพจ นักเลงคีย์บอร์ด ได้เลยนะครับผม
0 comments on “#MechReview New Poker II ของดีไซส์กะทัดรัด”