วันนี้ช่วงบ่ายทางผมเองได้รับเชิญจาก Logitech ประเทศไทยมางานเปิดตัวเล็กๆของ Logitech ครับ โดยในงานวันนี้เป็นการเปิดตัว Wireless Mechanical Keyboard รุ่น G613 และเมาส์ Wireless รุ่น G603 ครับ

ซึ่งผมเคยเขียนข่าวเจ้าสองตัวนี้ไปก่อนหน้านี้ (อยากอ่านจิ้มแรงๆ) ไม่นึกเหมือนกันว่าจะเข้ามาไทยได้เร็วขนาดนี้ครับ แถมยังมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เรื่องราคาด้วยนะ
บรรยากาศในงาน

โดยในงานนี้ได้เกียรติจากคุณ Chris Pate Gaming Portfolio Manager จากอเมริกามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ด้วยครับ ซึ่งคุณ Chris พรีเซนต์ได้ดีมาก และมีประเด็นน่าสนใจมากมายเลย
สิ่งที่คุณ Chris ยกขึ้นมาคือเรื่องเทคโนโลยีไร้สาย ที่่น่าสนใจว่าทำไมคอเกมทั้งหลายถึงกลัวและไม่อยากใช้งานกันและ Logitech แก้ปัญหาตรงนี้ด้วยนวัตกรรมยังไง ขอเล่ายาวนิดนึงนะครับ แต่เป็นความรู้ที่ดีมากๆ
เทคโนโลยีใหม่ของ Logitech [LIGHTSPEED, POWERPLAY, HERO]
จุดที่น่าสนใจที่คุณ Chris Pate ยกขึ้นมาคือ ก่อนหน้านี้ระบบไร้สาย (Wireless) เป็นอะไรที่คอเกมค่อนข้างต่อต้าน ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้าทั้งอายุการใช้งานไม่นาน ทั้งไม่แม่นยำ และอีกมากมาย ซึ่งมันสมเหตุสมผลแหละเพราะเทคโนโลยีในอดีตมันห่วยจริง
ซึ่งทาง Logitech เห็นช่องทางตรงนี้และผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายที่ได้ทั้งประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานเช่นกัน แม้ว่าจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ทำได้แล้วครับ

จนสุดท้ายได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมาทั้ง LIGHTSPEED / POWERPLAY / HERO
LIGHTSPEED คือเทคโนโลยีที่เน้นการตอบสนองไร้สายอย่างดีเยี่ยมโดยมีการรบกวนน้อยที่สุด และมีการตอบสนองที่ไวเทียบเท่ากับแบบมีสาย (ทำ Polling Rate ได้ 1000Hz / 1ms เท่าแบบมีสายเลยนะเอ้อ) ผ่าน USB Dongle ที่ความถี่ 2.4Ghz
ส่วน POWERPLAY คือเทคโนโลยีชาร์จไร้สายของเมาส์บนแผ่นรองเมาส์แบบพิเศษโดยใช้งานไปด้วยได้ซึ่งใช้คู่กับเมาส์ G903 และ G703 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ (ขอไม่ลงลึกในรอบนี้นะครับ เพราะ POWERPLAY ยังไม่มีจำหน่ายในไทย)

แต่ POWERPLAY นั้นมีจุดข้อเสียอีกอย่างคือเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่และราคาสูง (รวมทั้งเซ็ทเมาส์กับแผ่นรองเมาส์ทะลุ $200 หรือ 7,000 บาท) Logitech เลยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเมาส์อีกตัวขึ้นมาชื่อว่า HERO Sensor ครับ
HERO ย่อมาจาก High Efficiency Rated Optical เกิดมาเพื่อเน้นที่ประหยัดพลังงานโดยไม่ลดประสิทธิภาพ พัฒนาโดนมุ่งเน้นต้องผ่านค่าหลายค่าที่เป็นเกณฑ์ของ Logitech เช่นพวก ความไว แม่นยำ ดีเลย์ต้องน้อย และอื่นๆ

โดย Logitech เคลมว่า ประหยัดพลังงานกว่า Sensor ที่เคยมีก่อนหน้าในพวก Wireless Mouse ราวๆ 8-10 เท่าเลยทีเดียว โดยที่ประสิทธิภาพดีกว่า Sensor แบบเดิมๆ ราวๆ 2-3 เท่า
เป็นการประกาศที่เรียกได้ว่า กล้าท้าทายมาก ต้องให้เวลาลองพิสูจน์ดูครับ แต่ก็น่าสนใจจริงๆ
จา่กนั้นตามด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในไทย เป็น Wireless Gaming Gear ที่ใช้ LIGHTSPEED ครับ เป็นเมาส์รุ่น G603 ที่ราคาย่อมเยาว์ลงมาและข้ามมาใช้กับ Mechanical Keyboard ครั้งแรกในรุ่น G613 ครับ
G603 เมาส์ LIGHTSPEED ด้วยเซนเซอร์ใหม่ “HERO”

G603 เป็นเมาส์ที่ใช้เทคโนโลยี LIGHTSPEED ตามรุ่นพี่ G903 และ G703 ก่อนหน้านี้ แต่จุดเด่นที่เพิ่มเติมออกมาใน G603 คือสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายผ่าน USB และเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ด้วยครับ
โดย G603 เป็นเมาส์ตัวแรกที่ใช้ HERO Sensor มาด้วย ตามที่อธิบายคุณสมบัติไปข้างต้นครับ
ตัวเมาส์เป็นทรงขนาดกลางแบบเกมมิ่ง มีคลิกซ้ายขวา และตรงกลางเป็น Scroll Wheel และปุ่มปรับ DPI มีปุ่มด้านซ้ายสำหรับเซ็ทอิสระได้ 2 ปุ่มครับ

G603 ทำงานโดยถ่าน AA 2 ก้อน โดยสามารถปรับได้ 2 โหมดคือ โหมด HI และ LO ครับ
- โหมด HI: Polling Rate จะเป็นที่ 1000Hz หรือ 1ms (เท่ากับแบบมีสายเลย) โดยใช้งานต่อเนื่องได้ 500 ชั่วโมง (แบบไม่หยุด) และประมาณว่าใช้งานทั่วไปได้ราวๆ 4-6 เดือนครับ
- โหมด LO: Polling Rate จะได้แค่ 125Hz หรือ 8ms (เท่ากับพวกเมาส์ Wireless ทั่วไป) โดยเน้นระยะการใช้งานได้ถึง 18 เดือนเลย
เดี๋ยวรีวิวลึกๆ เจอกันครับ เพราะทาง Logitech ประเทศไทยก็ให้ผมยืมมารีวิวด้วย
G613 Wireless Romer-G Mechanical Keyboard with LIGHTSPEED Technology
อีกตัวที่เปิดตัวมาในงานก็ Mechanical Keyboard แบบไร้สาย G613 ครับ มาพร้อมกับ LIGHTSPEED เช่นเดียวกัน และสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless ผ่าน USB Dongle และ Bluetooth ครับ
อ้อ รุ่นนี้คีย์แคปเป็นภาษาไทยมาด้วยครับ ฉะนั้นสบายใจได้เลย

โดย G613 มาพร้อมกับรูปทรงพร้อมที่รองฝ่ามือ ไม่สามารถถอดได้ และแถม Dock วางมือถือให้ด้วยครับ เพราะว่าตัวนี้เปลี่ยนไปใช้ Bluetooth ได้ทันทีแค่กดปุ่มเดียว ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เอาไว้ตอบแชทเพื่อนหรือแฟนระหว่างรอเล่นเกมนั่นเอง
หรือสำหรับบางคนที่มีคอมสองตัวคู่กัน เช่นอันนึงเล่นเกม อีกเครื่องเอาไว้เล่น Facebook หรือตอบ Discord เจ้า G613 ก็สามารถสลับไปมาระหว่าง LIGHTSPEED กับ Bluetooth ได้ด้วยการแค่กดปุ่มเลย น่าสนใจมาก

G613 มาพร้อมกับสวิตช์ Romer-G พร้อมกับใช้ถ่าน AA 2 ก้อนเช่นเดียวกัน โดยเคลมว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้ถึง 18 เดือนเลยครับ อ้อ เพื่อการประหยัดพลังงานทำให้ G613 ไม่มีไฟ Backlight มาให้ครับ (คุณ Chris บอกว่าถ้ามีไฟกับถ่าน AA เปิดใช้งานไฟนี่อยู่ได้แค่วันกว่าๆ เอง)
แน่นอนผมก็ได้เอามารีวิวเช่นเดียวกัน (จริงๆ เค้าเรียกผมในฐานะเพจนักเลงคีย์บอร์ดไปเพื่อการนี้เลยแหละ)
ราคา
เชื่อเถอะว่าหลายคนอ่านมาตั้งนานสงสัยว่าเมื่อไรผมจะบอกราคาซะทีวะ (ฮา) ราคาส่วนตัวมีเซอร์ไพรซ์นิดหน่อยครับ

- Mouse G603 ราคาอยู่ที่ 2,699 บาท (ไม่ผิดคาดเท่าไร จากเมืองนอกที่ $69.99)
- Mechanical Keyboard G613 อยู่ที่ 3,699 บาท (ค่อนข้างตกใจครับเพราะเมืองนอกราคาอยู่ที่ $149.99)
เรียกได้ว่า Logitech ประเทศไทย จะลุยตลาด Mechanical Keyboard Wireless กับเค้าเต็มสูบเหมือนกันนะเนี่ย
เดี๋ยวรอรีวิวกันครับว่าจะเป็นยังไง ได้เจ้า G613 กับ G603 มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ใครอยากติดตามเพจหรือพูดคุยกัน อย่าลืมทักได้ที่เพจ นักเลงคีย์บอร์ด (https://www.facebook.com/KBGangster/) นะครับผม
รีวิวตัวเต็ม
G603: #GearReview Logitech G603 เมาส์ไร้สายเร็วเท่ามีสาย ใช้งานได้ 500 ชั่วโมงมีอยู่จริง!!
G613: #MechReview Logitech G613 Mechanical Keyboard ไร้สายเร็วเท่ามีสาย!

ตัว 603 เทียบน้ำหนักกับ 403 แล้วเป็นอย่างไรครับ ต่างกันมากมั้ย สนใจเอามาไว้เป็นเมาส์พกพา
แล้ว Lightspeed ของ 703 กับ 903 ทางเจ้าของเว็บได้ลองหรือยังครับ อยากทราบว่าฟีลลิ่งต่างจาก 403 กับ 900 มั้ย เพราะผมมีทั้ง 403 และ 900 กำลังเล็ง 703/903 อยู่
ถูกใจถูกใจ
ผมเพิ่งได้ลองตัว G603 กับ G613 จาก Logitech ครับ ส่วนน้ำหนักตามสเปคถ้าเทียบกับ G403 G603 ใส่ AA เต็ม 2 กัอนจะหนักกว่าครับ ส่วนดีไซน์ใกล้เคียงกัน
ส่วน 703 ไม่เคยแตะครับ แต่ 903 กับ 900 แทบไม่ต่างกันถ้าไม่ได้ใช้ PowerPlay (แผ่นชาร์จไร้สาย) ครับ ต่างตรงใส่น้ำหนักเพิ่มได้ครับ
ถูกใจถูกใจ