สรุปส่วนที่น่าสนใจของ Mechanical Keyboard ในงาน Computex 2018

งาน Computex 2018 ที่เพิ่งจบไป เมื่อเร็วๆ นี้ ผมเขียนข่าวมาสรุปให้ดูกันว่ามีแบรนด์ไหนที่เปิดตัวอะไรน่าสนใจในงานบ้างนะครับ

ผมได้รวบรวมข้อมูลมาจาก TechPowerUp ที่ทำการสำรวจบูทต่างๆ อย่างครบถ้วนดีเหมือนกันครับ ผมละเว้นพวกแบรนด์ Gaming Gear นะครับผม หรืออย่าง Cooler master ก็มีบทความแยกไปแล้ว

Ducky

ค่ายนี้ถ้าเป็นงาน Computex ก็มักจะไม่พลาดเปิดตัวอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือปีนี้มาพร้อมกับการแชร์บูทใหญ่กับ Varmilo ด้วยเลย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองแบรนด์นี้ที่แนบแน่นมากขึ้นในระยะหลังๆ พอตัว

Ducky ที่เปิดตัวในงานจะมี Shine 7 ที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นตัวทอปสุดของ Ducky มาตลอด (แต่ส่วนตัวผมชอบ One มากกว่านะ เรียบๆ กว่า) รุ่น Shine จะเป็นรุ่นที่เน้นวัสดุอลังการและแสงสีไฟจัดเต็ม แต่ก็จะมาด้วยราคาที่ค่อนข้างเอาเรื่องเหมือนกัน

Ducky Shine 7 จะมาพร้อมกับดีไซน์แบบแผ่นโลหะครอบด้านบนพร้อมบอดี้พลาสติกด้านล่าง ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะล้ำสมัยอยู่พอตัวเลย

นอกจากนี้อีกตัวที่น่าจะเคยกันก่อนหน้านี้ก็จะเป็น Ducky One 2 Mini เป็นรุ่น 60% ของ One 2 นั่นเอง แล้วก็ One 2 RGB ที่โผล่มาในงานด้วยเหมือนจะเป็นแคปแบบพิมพ์ด้านข้าง (หรือคนไทยชอบเรียกแคปนินจากัน) ส่วนกำหนดการวางขายต้องดูกันอีกทีครับว่าจะช่วงไหน (Ducky ชอบเปิดตัวแล้วก็หายครับ วางขายอีกทีต้องติดตามกัน)

แล้วก็แน่นอนครับว่าปีนี้ก็จะมี Limited Edition ประจำปีเหมือนเดิม เป็น Year of the Dog ที่เอา Shine 7 มาใส่แคปลายพิเศษนั่นเอง

นอกจากนั้นสำหรับซีรี่ส์ราคาประหยัดก็จะมี Ducky Zero โผล่มาโชว์ด้วย Ducky Zero จะเป็นไลน์ราคาประหยัดของ Ducky ครับ โดยจะมีตัวที่เคยเห็นกันอยู่แล้วคือ 3108 กับ 3087 แต่ตัวที่น่าสนใจที่ผมเพิ่งเคยเห็นคือตัว 3084 ที่เป็นแบบ 84Keys หรือ 75% ด้วย

อ้อและมี Ducky Blade มาโชว์ด้วยครับ ซึ่งเคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังไม่มีกำหนดการอะไรเพิ่มเติมเช่นเดิม

Varmilo

ค่ายจากจีนที่เน้น Mechanical Keyboard ดีไซน์เรียบๆ ไม่เน้นเกมมิ่งมาก หลังๆ Varmilo ได้รับการยอมรับในคุณภาพของชิ้นงานมากขึ้นและเข้าใจได้ว่ากลายเป็น Partner ที่สำคัญของ Ducky หลังๆ ครับ

มารอบนี้ Varmilo ไม่ได้เน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ขนาดนั้น แต่เน้นนำนวัตกรรมมาโชว์มากกว่า ตัวอย่างเช่น Varmilo V Motion คีย์บอร์ดราคา 170 USD ที่เราสามารถใช้การโบกมือเพื่อส่งคำสั่งได้ โดยมีเซนเซอร์อยู่ด้านบนซ้ายของ Keyboard ครับ

ต่อมาเป็นเรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วงของโชว์กันบ้างคือ VA68Cu เป็นรุ่นที่ทำบอดี้ขึ้นมาจากอัลลอยทองแดง หรือ Copper ครับ สนนราคาอยู่ที่ 300USD หรือราวๆ 11,000 บาท

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นยังมีตัวที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกว่าคือ Varmilo Ti ที่ทำจาก Titanium สนนราคาอยู่ที่ 4500USD คือราวๆ เกือบ 150,000 บาท เลยทีเดียว

ในงานส่วนที่เหลือก็จะเป็นตัวที่เคยเปิดตัวขายไปอยู่แล้วเช่นตัวแพนด้าหรือตัวซากุระครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่ที่น่าสนใจคือมีการทำ Adapter Bluetooth มาขายด้วยนะ เรียกว่าตัว VDBox แต่ผมยังไม่เห็นขายในตลาดอาจจะต้องรอดู

Leopold

Leopold แม้ว่าจะเป็นแบรนด์เกาหลีแต่ก็มาร่วมงานนี้ด้วย โดยจุดเด่นหลักๆ คือ การเปลี่ยน Keycaps มาใช้เป็นแบบ Dye-sub ครับ เราอาจจะรู้กันดีว่าการทำแคปแบบ Dye-sub นั้นตัวหนังสือจะไม่คมมาก แต่ทาง Leopold เคลมว่าเค้าสามารถทำให้ตัวหนังสือคมชัดและสวยได้

รุ่นเด่นๆ ที่เห็นก็จะเป็น FC750R PS ที่เป็น TKL พร้อมใช้แคป Dye-sub และ PBT ครับ สวยงามดีไม่หยอกเลย แล้วก็รุ่นตัวเต็ม 104 ปุ่ม FC900R PS ครับ ที่ใช้แคปเดียวกัน

อ้อ แล้วก็ FC660C และ FC980C ที่ใช้ Topre ก็ได้รับลายแบบใหม่ที่ใช้แคปดำล้วนด้วยเช่นกันครับ

ส่วน Keyboard ตัวใหม่ที่น่าสนใจของ Leopold จะเป็นรุ่น FC750SP ซึ่งจะเหมือน TKL ปกติแต่ที่เพิ่มมาคือตุ่ม Trackpoint ที่เอาไว้ใช้แทนเมาส์นั่นเองครับ โดยปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาจะมาอยู่ข้างๆ Spacebar แทน และลดขนาด Spacebar ลง น่าสนใจไม่หยอกนะ

ราคาและกำหนดการวางขายยังไม่กำหนดครับ ต้องรอดูกันไป

Source and image credits: Techpowerup Leopold / Techpowerup Varmilo / Techpowerup Ducky 1 , Ducky 2 /