ตลาด Mechanical Keyboard ก่อนหน้านี้ในเมืองไทยค่อนข้างเงียบเหงา อาจจะเพราะด้วยว่า Mechanical Keyboard แบรนด์ดังๆ หลายอันนั้นไม่มีตัวอักษรไทยเลยทำให้ไม่ได้รับความนิยมไปด้วย

เวลาผ่านไปตลาด Gaming Gear เติบโตขึ้นเลยทำให้คนรู้จัก Mechanical Keyboard มากขึ้นไปด้วย แต่แบรนด์สำหรับคนชอบ Mech KB โดยเฉพาะ (หรือที่เรียกว่า Mechanical Keyboard Enthusiasts) ก็ยังรู้จักกันแค่ในหมู่เฉพาะทาง

Varmilo นั้นเป็นอีกแบรนด์จากประเทศจีนแบรนด์หนึ่งที่เป็นที่ค่อนข้างรู้จักในหมู่คนเล่น Mechanical Keyboard พอสมควร เนื่องจากคุณภาพของงานนั่นเอง

ถ้าถามผมว่าคุณภาพจะดีขนาดไหน เอาเป็นว่าเค้าใช้โรงงานประกอบชิ้นส่วนเดียวกันกับ Leopold น่ะครับ ก็รับรองงานได้ด้วยระดับหนึ่งเลย

มาวันนี้ได้มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่นำ Varmilo เข้ามาในประเทศไทยแล้วนั่นคือ Engine Thailand ผู้ที่นำเข้า Corsair, Tt eSPORTS หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้ามาในไทยนั่นเอง นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก

และที่สำคัญคือบางรุ่นที่นำเข้ามานั้นมีการ Dye-sub ตัวอักษรฟอนต์ไทยลงไปบน Keycaps ด้วย ทำให้ตอบโจทย์คนรัก Mechanical Keyboard ในไทยเสียซะที

[Disclosure] Engine Thailand ได้ส่งมอบ Varmilo VA108M Sakura Cherry MX Silent ให้ผมมาไว้ใช้งาน และเพื่อเอามาให้รีวิวแก่เพื่อนๆ ในเวปไซต์นักเลงคีย์บอร์ดนี้ครับ

รีวิวแบบ Video เชิญชมกันได้

พูดถึงแบรนด์ Varmilo และการเข้าไทยกันซักหน่อย

Varmilo เป็นแบรนด์ผลิต Mechanical Keyboard เมืองจีนที่อยู่ได้สักพักแล้ว โดยมีรุ่นหลักที่วางขายคือ VA87M เป็น TKL และ VA104M ซึ่งเป็น Full Size

แต่สำหรับผมแล้ว ผมรู้จักแบรนด์ Varmilo ขึ้นมาจากตัวที่ค่อนข้างดังตัวหนึ่งคือ VA68m ครับ ซึ่งเป็น 68 Keys Layout ที่ผมว่าค่อนข้างลงตัวพอสมควร (ปัจจุบันเข้าใจว่ามีรุ่น MIYA เข้ามาแทนแล้ว)

Varmilo สมัยก่อนทำตลาดอยู่แค่ที่เมืองจีนอย่างเดียว ก่อนที่จะเริ่มดังเมื่อ Massdrop หยิบแบรนด์นี้ขึ้นมาขายแล้วสุดท้ายก็มีหน้าร้านขายเมืองนอกในที่สุดครับ

จุดเด่นของ Varmilo คือเป็นแบรนด์ที่สามารถสั่งเปลี่ยนคีย์แคปหลากสีได้ในรุ่นมาตรฐาน (บอดี้สีดำ/ขาว) ครับ

แต่รุ่นที่เข้าไทยผ่าน Engine รอบนี้นั้นจะเป็นรุ่นพิเศษ 3 รุ่นและเป็น Full Size ทั้งหมดนั่นก็คือ

• Varmilo Sakura VA108M สีชมพูสดใสลายซากุระ
• Varmilo Chicken Dinner VA104M รุ่นสำหรับแฟน PUBG โดยเฉพาะ
• Varmilo CMYK VA108M สีขาวเทาพร้อมแคปแต่งสีชุดเล็ก

โดย Engine ได้นำเข้าไทยมามีให้เลือกสองสวิตช์คือ Cherry MX Silent Red (6,190 บาท) และ Cherry MX Speed Silver (5,990 บาท) ครับผม

ส่วนของ Mechanical Keyboard ใน Form Factor อื่นไม่ว่าจะเป็น TKL หรือ MIYA อาจจะต้องรอในโอกาสต่อไปครับ

แกะกล่องเจ้า Varmilo Sakura VA108M Cherry MX Silent Red

Varmilo รุ่น Sakura เป็น 1 ใน 3 รุ่นที่นำเข้ามาตลาดในเมืองไทยซึ่งเป็นรุ่นที่ Varmilo ออกแบบเป็นรุ่นพิเศษ จุดเด่นคือสีชมพูสดใสพร้อมกับ Spacebar ลายดอกซากุระที่สวยงามนั่นเอง

กล่องของ Varmilo Sakura นั้นก็มีการเล่นลายซากุระอย่างสวยงาม เป็น Mechanical Keyboard ที่กล่องนั้นน่าเก็บมากครับ

เวลาเราเปิดกล่องออกมา ก็จะเจอเจ้า Varmilo Sakura อยู่ในซองพลาสติกอย่างดีพร้อมฝาครอบแป้นกันฝุ่น พร้อมกับสาย Mini-USB สีชมพูแยกมาที่มาพร้อมฝาครอบสองฝั่งอย่างดี และที่ดึงคีย์แคปสีชมพูเดียวกับตัวบอดี้ครับ

โดยจะมี Keycaps เพิ่มเติมมาเป็น Spacebar สีขาวเรียบๆ ธรรมดา กับแคปลายภูเขาไฟฟูจิครับ (เอามาใส่แทน ESC สวยดีครับ) แล้วก็แคป Caps Lock, Num Lock, Scroll Lock แบบที่มีช่องไฟแสดงให้เห็นมาให้เปลี่ยนแทนครับ

จุดที่ผมชอบอันนึง จากที่ผมเคยรีวิว Mechanical Keyboard ไว้บางตัว ผมเป็นคนที่ชื่นชอบแบรนด์ Mechanical Keyboard ที่เอาใจใส่กับของพวกนี้พอสมควร การที่แบรนด์แถมแผงพลาสติกกันฝุ่น และฝาครอบ USB ทั้งสองฝั่งทำให้รู้สึกถึงความเอาใจใส่และพรีเมี่ยมพอสมควร

จุดที่น่าตินิดนึงคือการใช้ Mini-USB เป็นสายหลักอาจจะกรณีทำสายหายแล้วยุคนี้อาจจะหาสายยากนิดนึงครับ ผมมองว่าควรเปลี่ยน USB-C ได้แล้ว แต่เข้าใจได้ว่า Varmilo VA108M นั้นใช้บอร์ดแบบนี้มานานแล้วครับและยังขายได้เรื่อยๆ อยู่ ซึ่งหลายตัวก็ยังใช้ Mini USB อยู่นั่นเอง (หาสายโมง่ายกว่าด้วยนะ)

งานประกอบและวัสดุทำได้อย่างดีเยี่ยมไม่เสียชื่อ Varmilo

ในส่วนของบอดี้ Varmilo Sakura ทำมาจากพลาสติกเนื้อแน่นอย่างดี จุดที่ผมชอบนอกจากนั้นคือการที่มีการเล่นลายไม้เบาๆ ลงไปบนหน้าพลาสติกครับ ทำให้ความรู้สึกมันมีความอ่อนตัวมากขึ้นไม่แข็งทื่อซะทีเดียว ซึ่งสอดคล้องรับกลับความเป็นซากุระอย่างดี

VA108M จะมาพร้อมกับ 104 ปุ่มมาตรฐานพร้อมปุ่มพิเศษ 4 ปุ่มด้านขวาบน เพื่อเรียกฟังก์ชั่นพิเศษพวกเครื่องเล่นเพลง / เครื่องคิดเลข อะไรแบบนั้นครับ

Keycaps ที่มาเป็น PBT โดยใช้การพิมพ์อักษรแบบ Dye-sub ครับ Profile เป็น Cherry Profile ที่จะให้ความรู้สึกเตี้ยกว่า Keycaps OEM ที่เรารู้จักกันดีใน Mechanical Keyboard หลายๆ รุ่น

และจุดที่พิเศษมากๆ และน่ายินดีมากๆ คือในรุ่น Sakura นั้นมีการพิมพ์อักษรไทยลงไปบน Keycaps แล้วครับ โดยพิมพ์แบบจริงจังด้วย ไม่ใช่การยิงเพิ่มเหมือน Ducky (ซึ่งการยิงเพิ่มแบบ Ducky นี่มันไม่สวยเลยให้ตายเหอะ)

แต่ด้วยการที่เป็น PBT Dye-sub นั่นเอง ทำให้ไฟไม่ลอดตัวหนังสือนะครับผม ใครที่อยากได้ไฟลอดต้องระวังตรงนี้ไว้ด้วยนะ

ไฟของปุ่มที่ให้มาเป็น LED สีชมพูให้ความสวยงามอยู่ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบไฟลอดระหว่างแคปอยู่เหมือนกันครับให้ความรู้สึกเหมือนไฟส่องสว่างออกมาจากด้านล่าง ไม่รบกวนสายตา

ไฟ LED ที่ให้มานั้นสามารถปรับได้สองแบบคือไฟนิ่งธรรมดาและไฟแบบหายใจ (Breathing) สามารถปรับความสว่างและความเร็วได้ แต่ไม่ไม่โหมดมากกว่านั้น ถ้าใครเป็นสายชอบมีฟังก์ชั่นไฟเยอะๆ Varmilo ไม่ตอบโจทย์ท่านแน่นอนครับ เพราะจุดแข็งคือเน้นคุณภาพงานและความเรียบง่ายมากกว่า

 

ขาตั้งด้านล่างนั่นเป็นขาตั้งระดับเดียวพร้อมกับขายางครับ แต่สามารถวางเรียบไปกับโต๊ะได้เพราะว่ามีแป้นยางแปะไว้ให้อยู่แล้ว

เนื่องจากรุ่น Sakura นั้นจะเล่นสีชมพูและสีขาวเป็นหลัก ดังนั้นอาจจะเปื้อนง่ายด้วย ต้องระวังเป็นพิเศษนะครับสำหรับคนที่มือชอบเปื้อนเวลาใช้งานจะเห็นเป็นคราบเด่นเหมือนกัน

ฟีลลิ่งการพิมพ์จาก Cherry MX Silent Red ไม่ทำให้ผิดหวัง

ผมเคยรีวิวเจ้า Cherry MX Silent Red ครั้งแรกบนรีวิวของ Filco Majestouch 2 Camouflage-R ตอนนั้นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดี แต่บอกเลยว่ายังไม่ถึงจุดที่เรียกได้ว่าชอบเท่าไรนะ

แต่ความประทับใจบนเจ้า Varmilo Sakura นั้นทำได้ดีกว่าอย่างรู้สึกได้ชัดเจน น่าจะเพราะปัจจัยที่ผมคาดว่านะรวมๆ กันครับ อาทิ เช่น

• Keycaps PBT ที่ทำให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่หนักแน่นกว่า ABS บน Filco
• Cherry Profile ที่เตี้ยกว่าเลยทำให้ความรู้สึกแน่นขึ้น
• งานประกอบภายในอาจจะแตกต่างกัน

ผมรู้สึกว่า Cherry MX Silent Red บน Varmilo Sakura ให้ฟีลลิ่งที่ค่อนข้างนุ่มนวล และไม่กระแทกกระทั้นเท่า รู้สึกเหมือนเป็น Topre เบาๆ อยู่เหมือนกัน แต่ว่ายังไม่ให้ความรู้สึกดีดเด้งหรือยางเท่า

ผมรู้สึกว่ามันมีความ Red (ก็แหงล่ะ Silent Red) แต่มีความรองรับที่นุ่มนวลเพิ่มขึ้นมา และที่เจ๋งคือมันไม่มีเสียงป๊อกแป๊กๆ เหมือน Red ปกติด้วยครับ

ตัวของ Stabilizer นั้นทำได้ดีมาก ไม่มีการกระแท่นกระแท่น (Rattle) ให้ได้ยินเลย แต่ใช้ไปยาวต้องดูเหมือนกันว่าจะเป็นไง เท่าที่ดูก็มีการ Lube มาที่ค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ

ลองฟังเสียงดูจาก ทดสอบพิมพ์เอาในคลิปวิดีโอก็ได้ครับ จะพบว่าเสียงนั้นนุ่มนวลเหมาะกับการใช้งานในออฟฟิศหรือแม้กระทั่งเล่นเกมแล้วเสียงจะไม่เข้าไมค์ให้เพื่อนร่วมทีมด่าอย่างมาก

ฟีเจอร์อื่นๆ

รองรับ Win Lock จากการกด Fn + Windows Key ครับ แล้วก็รองรับ NKRO ด้วย ไม่มี Ghosting แน่นอน

มีปุ่ม Multimedia ในแถบ F7 – F12 โดยการกด FN ค้างไว้และกดปุ่มพวกนั้น เช่นพวกเพิ่มลดเสียง

สามารถสลับ FN กับ Windows Key ฝั่งซ้าย ด้วยการกด Fn + Win ค้างไว้ 3 วินาที และสามารถสลับ Caps Lock กับ Ctrl ซ้ายได้ด้วยการกด FN + Ctrl ค้างไว้ 3 วินาทีเช่นกัน โดยไฟ Caps Lock จะกะพริบ 3 ครั้งครับ

ส่วนที่เหลือจะพูดว่าไงดี พูดได้ว่ามันไม่มีลูกเล่นอะไรพิเศษมากกว่าการเป็น Mechanical Keyboard ธรรมดาๆ เลย เพราะเข้าใจได้ว่ามูลค่าของมันไปอยู่ที่คุณภาพของเนื้องานประกอบและวัสดุเสียมากกว่า

ดังนั้นถ้าใครอยากได้ Mechanical Keyboard ที่เน้นด้านฟังก์ชั่นเล่นเกมหรือ Macro เยอะ Varmilo Sakura อาจจะไม่ใช่ตัวที่ตอบโจทย์เท่าไร แต่ถ้ามองถึงคนที่เอามาใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ Macro หรือต้องการเล่นไฟอะไร (แบบผม) ผมว่ามันตอบโจทย์อยู่เหมือนกัน

สรุป

ใครที่มองหา Mechanical Keyboard งานประกอบดีๆ มาใช้งานหรือจะสะสม Varmilo เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์เลยล่ะ โดยลักษณะแบรนด์ผมว่าจะคล้ายๆ Realforce หรือ Filco ที่เน้นความเรียบง่าย ที่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์อลังการมาก แต่เน้นพื้นฐานที่แน่นปึ้ก พร้อมทั้งวัสดุและงานประกอบที่ดูดี

ถ้าคุณต้องการ Mechanical Keyboard ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์เน้นการเล่นเกมหรือเน้นแสงสีเสียง Varmilo จะเป็นแบรนด์ที่ไม่ตอบโจทย์ แต่สำหรับใครที่มองหา Mechanical Keyboard ที่สวยงามแบบหน้าตาเรียบๆ ไม่ว่าจะใช้เล่นเกมก็ดีหรือว่าจะนำไปใช้ทำงานก็ดี ลองดู Varmilo ไว้ได้เลยเช่นกัน

แม้ว่าจะมาในราคาที่ค่อนข้างสูงไปหน่อย แต่แลกมาพร้อมกับวัสดุที่ดูดีและคุณภาพงานประกอบที่เนี้ยบเยี่ยม ผมว่าเรียกได้ว่าไม่ได้แพงจนไม่คุ้มค่าแต่อย่างใด แต่อยากให้ท่านลองได้สัมผัสดูเองว่าท่านจะชอบหรือไม่ครับ

สิ่งที่ผมประทับใจคือการที่ตลาด Mechanical Keyboard ที่ไม่ใช่สาย Gaming บ้านเราเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ทำให้ Engine Thailand กล้าที่จะนำแบรนด์ Varmilo เข้ามานำเสนอในตลาดไทย พร้อมคีย์แคปไทยนั้นเป็นก้าวที่แรกที่ดีเยี่ยมเลยล่ะครับ

โดยสามารถหาซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายของ Engine หรือชื่อร้านดังๆ ตามนี้ได้เลยครับ

• Envi Simple ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 4
• Zest ศูนย์การค้าฟอร์จูน พระราม 9 ชั้น 3
• IT Friend ศูนย์การค้าฟอร์จูน พระราม 9 ชั้น 4
• Blue Dragon ศูนย์การค้าซีคอน ศรีนครินทร์ ชั้น B1
• CDR Highend Club เลขที่ 17/5 มณีนพรัตน์ ซอย 3
• Modifycom Star ศูนย์การค้า สตาร์ คอมพิวเตอร์ เซ็นเตอร์ ชั้น 1
• Compute and More ศูนย์การค้าเดอะพาลาเดียมเวิลด์, ชั้น 5 ห้อง IT5 11-12
• KGGIT ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ชั้น 3 ห้อง TB037 – 038

อ่านแล้วหากชอบบทความไปกด Like กันได้ที่เพจนักเลงคีย์บอร์ด แล้วก็อย่าลืม ติดตาม YouTube Channel KBGangster ได้นะครับ หากมีคำถามอะไรสามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจเช่นกันครับ

ลงท้ายตรงนี้ผมต้องขอขอบคุณ Engine Thailand อีกครั้งสำหรับ Varmilo Sakura ที่มอบให้เพื่อมารีวิวแก่เพื่อนๆ ผู้ชื่นชอบ Mechanical Keyboard ด้วยครับ

Gallery ทิ้งท้าย (คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่)