[MechReview] DREVO BladeMaster Pro – คุณพระช่วย TKL ตัวนี้มันอเมซิ่งมาก!!!

จากที่เราเคยได้เกริ่นถึง DREVO BladeMaster Pro ไปแล้วเมื่อปีก่อนนะครับ (อ่านได้ที่นี่จ้า) วันนี้เราได้มาลองตัวจริงกันแล้ววว ซึ่งมันอเมซิ่งจริงๆ ครับ ไม่เสียใจที่ hype รอไปกับ Kickstarter ตั้งกะปีที่แล้ว ซึ่งวันนี้ขอมารีวิวให้ฟังกันตามภาษาคอคีย์บอร์ดครับ!

ยาวไป ไม่อยากอ่าน
จุดเด่น:
– รูปทรงสวยงาม
– materials ดี บอร์ดแน่นหนาและ firm มาก
– สลับการเชื่อมต่อได้จากบนบอร์ดเลย และเชื่อมได้ 3 แบบพร้อมกัน
– Wireless Connection เร็ว เล่นเกมไม่มี input lag แถมแบตใหญ่มากกก
– Genius Knob เพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน
– Arr Gee Beess ไฟสีสันตระการตา

ข้อติ:
– โปรแกรมใช้ปรับแต่งในคอมน่าจะดีกว่านี้นิดนึง
– ไหนๆ ก็ PRO แล้วน่าจะเป็น PBT Keycaps

โย่วๆ เริ่มรีวิวกันเล้ยยย ✨✨

เริ่มต้นกันด้วย spec คร่าวๆ นะครับ
– สี: Space Gray
– Switch (ของตัวนี้): Cherry Black
– Keycaps: พลาสติก ABS
– ระบบการเชื่อมต่อ: USB Type C / Bluetooth 4.0/ 2.4 GHz
– ความจุแบต: 4000 mAh

อุปกรณ์ในกล่อง
– Drevo BladeMaster PRO (duhh)
– Cap puller
– สาย USB-C
– สายต่อ USB-A to A Female (สายพ่วง usb)
– ฝาพลาสติกครับกันฝุ่น (ดีมากเจ้า DREVO ไม่มองข้ามเรื่องแบบนี้)
– สติ๊กเกอร์
– แปรงทำความสะอาด
– คู่มือ

จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของตัวนี้คือการที่มีแบตก้อนเท่าโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่องและระบบเชื่อมต่อถึงสามชนิดกันเลยทีเดียว บอร์ดตัวเดียวต่อเครื่องทั้งบ้านอะไรแบบนี้ 5555 เจ้า Blade Master PRO

First Impression!!
สำหรับส่วนตัวผมคิดว่าสวยมากครับ ตัวบอร์ดด้านบนเป็นอลูมิเนียมสี Space Gray/ Gun metal (ไม่ใช่สายกราฟิก แยกสีไม่เก่ง 555) นวลตาและเนียนมือมาก ขนาดส่วนตัวไม่ใช่คนที่ชอบการที่ผู้ผลิตแปะยี่ห้อตัวเองไว้หน้าบอร์ดแต่รู้สึกว่าการที่มีตัวอักษร DREVO เงาๆ มาอยู่ข้างหน้าบอร์ดแล้วช่วยให้ตัวบอร์ดดูหรูมากครับ ขอบบอร์ดไม่เป็นขอบเหลี่ยมๆ ธรรมดา มีการตัดมุม เล่นกับโปรไฟล์ของบอร์ด ช่วยให้ดูมีมิติมากขึ้น ยังไม่ได้พูดถึงเจ้าตัว Genius Bnob ที่หมุนข้างๆ เลย 555 เดี๋ยวมาพูดอีกที

ตัวบอร์ดมีน้ำหนักครับ แน่นหนา หยิบจับแล้วรู้สึกถึงคุณภาพของ materials ที่นำมาผลิต ไม่ก๊อกแก๊ก ออกแรงบิดแล้วไม่ขยับเลย ไม่มีเสียงพลาสติกหรือชิ้นส่วนออดแอดใดๆ ทั้งสิ้น เยี่ยมมากเจ้า DREVO แต่ที่ไม่ค่อยเยี่ยมเท่าไรคือคีย์แคปครับ มันเป็น ABS อะะะ ถ้ามือเหงื่อออกมากแบบผมมันจะเห็นเป็นคราบครับ แล้วก็ใช้ไปนานๆ มันจะขึ้นเงา อย่างไรก็ตาม… ตัว font ของคีย์แคปดูดีครับ ดูไม่ emo แบบสายเกมมิ่งมาก เอาไปใช้ที่ออฟฟิศแล้วไม่เขินครับ

ส่วน RGB… RGB ตระการตามากครับ เยอะแยะ ตาแป๊ะไก่ ยอมใจสายฟรุ้งฟริ้ง จะ side glow ก็ตาม จะใต้ปุ่มก็ตามเป็น Full RGB แล้วก็มี built in มาให้ในบอร์ดหลายแบบมาก แต่ก็ยังสามารถ custom เองได้จาก ใน app ของมันด้วย

เรื่องการใช้งาน
โดยรวบรับที่สุด Blade Master Pro เป็นบอร์ดที่ใช้งานได้ดีมากครับ (สุดยอด! informative มาก! จบการรายงาน! ขอบคุณครับ 5555 หลอกกกก) เรื่องการใช้งานในออฟฟิศทั่วไปคิดว่าไม่มีติดอะไรเลยครับ ทุกอย่างทำงานได้ดีมาก ทั้ง wireless และเสียบสาย การสลับ connectivity ไวมาก จาก wired ไป 2.4 GHz ใช้เวลาไม่ถึง 3 วิ แต่ BT อาจจะต้องรอหน่อยนึงให้เครื่องที่เราจะต่อด้วยได้ Pair ก่อน แต่ที่แน่ๆ คือมีไฟให้เพื่อนร่วมงานมาตื่นตาแก้ง่วงกันด้วย 👀 แถมการที่มันเป็นขนาด TKL ทำให้เวลาเราพิมพ์ เราไม่ต้องเอนมือมาทางซ้ายมากครับ ซึ่งนั่นแปลว่าร่างกายวางมือได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ปวดมือ ปวดแขนครับ… ปรกติผมใช้ที่ออฟฟิศปิดไฟตลอดยกเว้นเวลาอยากโชว์ เท่าที่ใช้มาทั้งหมดสองสัปดาห์ 8ชม. กว่าต่อ 1 วัน 5 วันต่อสัปดาห์ บวกลบเล่นเกมบ้างที่บ้าน แบตยังไม่หมดครับ อึดเอาเรื่อง การันตี ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอใช้พื้นที่นี้พูดถึง knob ข้างๆ เพิ่มเติมเลยละกัน

ตัว knob ข้างๆ นั้นสามารถ custom สิ่งที่มันทำได้จากในแอปครับ โดยที่ตัวมันเองสามารถสลับ mode การทำงานได้จากบนบอร์ดเลย ปกติแล้วมันทำหน้าที่เปลี่ยนสีไฟ หรือ mode ไฟต่างๆ บนบอร์ด ซึ่งเยอะมากกกกก จะเปลี่ยนรูปแบบไฟ เปลี่ยนความสว่าง เปลี่ยนความเร็วของไฟวิ่ง มาหมดดด หรือสลับมาโหมดที่เราเซ็ตให้มันทำงานได้ ผมใช้ knob ตรงนี้ในการกดแก้ cell ของ excel เวลาทำงานแต่ด้วยตัวโปรแกรมของ DREVO ผมเองอาจจะยังไม่รู้วิธีเซ็ตให้มันทำอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านี้ได้แค่ไหน และถ้าเราหมุนปุ่มเร็วๆ เราจะสามารถสังเกตุ input lag จาก knob ได้อย่างชัดเจน…

ข้ามมาเรื่องเกมมิ่ง จากที่เขาโฆษณาว่า input lag น้อยมาก จนสามารถเล่นเกมแบบ wireless ได้อันนี้ผมคอนเฟิร์มครับ เท่าที่ลองเล่นเกมโดยทั่วไปแบบไม่เสียบสายนั้นไม่มี input lag ให้รู้สึกเลยด้วยการเชื่อมต่อแบบ 2.4 GHz และด้วย ขนาด TKL ของมันนั้นก็ทำให้มีพื้นที่เหลือๆ ให้ mouse วิ่งได้กว้างๆ ครับ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะด้วย อย่างที่พูดไปแล้วว่าตัวบอร์ดมีโปรแกรมให้โหลดมาด้วย เราสามารถเซ็ต Macro ได้ด้วยสำหรับท่านที่อาจจะจำเป็นต้องใช้ (injokerrr 5555) แต่ปรกติผมเล่น FPS ก็ไม่ได้ใช้อะไรนอกจาก record ประโยคไว้เกรียนฝั่งอื่นครับ

เอาละ 55555 ถ้าจะให้ผมเลือกว่าอะไรที่ผมไม่ชอบที่สุดเกี่ยวกับบอร์ดนี้ ผมบอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า companion program ของ DREVO ครับ ใช้งานยากไปหน่อยแล้วมันก็งงๆ ครับ แต่ถ้าใช้จนชินแล้วก็คงโอเคและเข้าใจมันมากขึ้นครับ แต่ในความที่ผมไม่ชอบ ไม่ได้แปลว่ามันทำงานไม่ได้ดีนะครับ เราต้องมี account ในการ customize บอร์ดของเรา และไม่ว่าเราจะไปโหลด program ของ DREVO ที่ไหนเราก็จะสามารถดาว์นโหลด settings ของเรามาใช้ได้โดยไม่ต้องเซ็ตใหม่ และ settings ของเราก็เซฟเก็บไว้บนบอร์ดให้เราเลือกใช้ profile ที่เราเซฟเก็บไว้เมื่อไรก็ได้ด้วยครับ

Final Thoughts มามะ สรุปให้ฟัง
DREVO Blade Master PRO เป็นบอร์ดที่ผมถูกใจมากด้วยประการทั้งปวง แต่จุดที่ผมมีติดๆ เบาๆ คือเรื่องของ functionality ของ Genius Knob ที่น่าจะมากกว่านี้นิดนึง (ถ้าใครมีการใช้งานแบบ creative ลองมาเล่าให้กันฟังได้ครับ เผื่อผมจะได้ใช้ตาม 555) เสียงของ stabilizers นั้นมีก๊อกแก๊กเล็กน้อย และการเสียงเวลากดต่อปุ่มนั้นอยู่ในโทนสูงเล็กน้อย (ข้อนี้ส่วนตัวล้วนๆ เล็กน้อยมาก)… กับเจ้า Keycaps ที่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่ก็ตัว PRO แล้ว น่าจะเป็น PBT มาให้เลย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรเพราะถ้าอยากเปลี่ยนเซ็ตขึ้นมา ตัวนี้ก็ layout มาตรฐาน หาเปลี่ยนไม่ยากครับบบบบ ✌

อย่างไรก็ตามแม้ว่าผมมีติงไปบางเรื่อง แต่ท้ายที่สุดแล้ว บอร์ดนี้เหมาะอย่างมากกับการเล่นเกมจริงๆ และเพิ่มเติมกว่านั้นคือบอร์ดนี้ใช้งานสนุกมาก ไม่ว่าจะพยายามหาอะไรมาให้ Genius Knob ใช้งานหรือว่างๆ ก็นั่งแต่งไฟเล่นก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Blade Master PRO เข้าใกล้กับคะแนนเต็มของผมมากครับ ไม่ว่าจะด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา (ของคนรีวิว หลอกกก) ของตัวบอร์ดเอง ด้วย function ต่างๆ ของบอร์ดก็ดี ผมกล้าแนะนำ Blade Master PRO ตัวนี้ให้เพื่อนๆ ได้ใช้อย่างเต็มปากครับ 👍

นักเลงคีย์บอร์ดรายงาน
ปล. บอร์ดตัวนี้เป็นบอร์ด sponsored จาก DREVO Thailand ครับ ถ้าใครสนใจอยากรับมาดูแลซักตัวติดต่อได้เลย ปลล. นักเลงรีวิวด้วยความสัตย์จริงตั้งแต่แรกจนจบนะจ๊ะ

ปลลล. ติดตามรีวิวแบบวิดิโอได้เร็วๆ นี้ด้วยยย