[GearReview] Logitech MX Master 3 – the return of the ‘end game’

ช่วงยาวไป ไม่อยากอ่าน

จุดเด่น:

• Improved Side Scroll Wheel
• Improved Ergonomics
• Improved Scroll Wheel
• USB – C

จุดไม่ค่อยเด่น:

• ราคาค่อนข้างแรงครับ 
• ฟังก์ชันการใช้งานดูแล้วไม่ได้มีอะไรที่พูดได้เต็มปากว่าเป็นสิ่งใหม่จริงๆ ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาจากสิ่งเดิมที่ทำได้ดีอยู่แล้ว (แต่ผมก็คิดว่าไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีเท่าไร)

จากที่เราเคยรีวิวสุดยอดเมาส์ไร้สายสำหรับการทำงาน และ productivity ไปแล้วเมื่อปีกว่าก่อน เมื่อเร็วๆ นี้ (อ่านได้ที่นี่เลยจ้า) Logitech ได้ปล่อย MX Master 3 ออกมาแล้ว โดยได้พัฒนาจากรุ่น 2S ที่เราคุ้นชินและขนานนามว่า the end game สำหรับคอเมาส์ทั้งหลาย

ถ้าใครเคยจับ MX Master 2S จะทราบอยู่แล้วนะครับว่าขนาดมันค่อนข้างใหญ่เต็มมืออยู่ ฟังก์ชันการใช้งานครบครันทั้ง side scroll ทั้ง thumb button ทั้ง Darkfield sensor ใช้งานได้ทุกสภาพพื้นผิว มาวันนี้ฟักชันทุกอย่างที่ทำให้ 2S นั้นเจ๋ง Master 3 นั้นต่อยอดขึ้นไปให้เราได้เมามันกับการทำงานทุกๆ วันของเรา!  

First Impression

ด้วยตาเปล่า เห็นได้ทันทีว่ารูปทรงนั้นแตกต่าง จาก 2S เล็กน้อยแต่ไม่มาก รู้สึกได้ว่า 3 จะเพรียวกว่า 2S เล็กน้อย และองศาของมือเวลากุมเมาส์นั้นจะสูงกว่าและเมาส์จะเข้ากับอุ้งมือของเรามากกว่า ไฟบอกแบตถูกย้ายขึ้นมาอยู่ในที่ ที่เราเห็นได้ง่ายกว่าเจ้า 2S มากก ไม่ต้องก้มดูหรือยกขึ้นมาดูแล้ว และที่สำคัญ! Scroll Wheel ใหม่ดีมากกก โคตรดี ฟีลดีมากกกกก ก ไก่ สามล้านตัว

เท่านั้นไม่พอ ตำแหน่งของ side scroll และ side buttons ทั้งสองปุ่มถูกย้ายที่เล็กน้อยและขนายขนาด ทำให้เราเอื้อมนิ้วไปกดได้ง่ายขึ้นมาก ชอบมั่กครับบบ 3 side scroll ฟีลลื่นกว่า 2S เยอะมาก (ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นเพราะ side scroll ถูกดันขึ้นมาลอยๆ ไม่มีขอบเหมือน 2S ซึ่งทำให้เวลาเราเลื่อน มันจะติดขอบไปด้วย) 

และ! U S B – C QUICK CHARGEEEEE ว้าวๆๆๆ โอ้วววว เยสสสสสสสส (ทุกวันนี้พก micro ไว้ที่ทำงานด้วยเพราะเหตุผลเดียวคือต้องชาร์จ 2S 5555)

การใช้งาน

ในเว็บเขาบอกว่าแม่นกว่าเดิม 5 เท่า!! (ทำ excel ต้องแม่นแค่ไหนฟะ 555) แต่ก็นะก็แม่นจริงแหละครับ เซนเซอร์ Darkfield ของมันใช้งานได้แม้บนกระจก ซึ่งอันนี้คอนเฟิร์มครับ ใช้ได้กับแทบทุกพื้นผิวจริงๆ ไม่เคยมีปัญหาเลย ยิ่งใช้บน mouse pad ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว อีกหนึ่งการพัฒนาที่เห็นได้ชัดคือ scroll wheel ของเจ้า 3 ครับ รุ่นนี้เงียบกริบ ไม่แกร๊กๆ เหมือน 2S แล้ว เจ้า 2S เวลาเราเลือนมันจะมีเสียงแกรกๆ เวลาเข้าโหมด adaptive scroll ก็จะไม่มีเสียงแต่เวลา snap กลับเข้ามาโหมดธรรมดาก็แกรก แต่เจ้า 3 ไม่มีครับ เวลาเรา scroll เราจะรู้สึกแค่ bump เล็กๆ (เหมือนเวลาเรากด tactile switch) ส่วนเวลาเรา scroll เร็วๆ ก็จะมีแค่คลิกเล็กๆ ตอน snap เปลี่ยนโหมดนิดเดียวครับ (ผมบอกไปรึยังว่าชอบม้ากกก 5555) พอกลับไปใช้เจ้า 2S นี่รู้สึกสากมือไปเลย แกรกๆๆๆๆๆๆ 

แบตอึดเท่าเดิม ใต้เมาส์มีเขียนไว้ว่า rating แบตเท่ากันกับ 2S ซึ่งก็แปลว่าแบตมหาอุต ยาวๆ ไปวันละ 8 ชม. ใช้ได้เป็นเดือนไม่ต้องชาร์จ ฟังก์ชัน flow หรือรับส่งไฟล์ข้ามคอมพิวเตอร์ก็กลับมาให้ใช้กันเหมือนเดิมครับ แมคไปแมค แมคไป PC PC ไปแมค ก็ทำได้หมด 

เจ้า 3 ต่อได้สามเครื่องพร้อมกันครับ เวลาเราใช้พร้อมกันสองเครื่อง ก็ไม่ได้หงายมาสับสวิชต์ แค่เลื่อนออกนอกขอบจอ เมาส์เราก็จะย้ายเครื่องที่เชื่อมต่อให้เองอัตโนมัติครับ (แต่ต้องลง software ของ Logitech ไว้นะครับ)

เรื่องของการเล่นเกมถามว่าเล่นได้มั้ย ก็เล่นได้แหละครับ แต่ด้วยตัวน้ำหนักของเมาส์และขนาดของมันผมคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นเกมพวก competitive เท่าไร คิดว่าเมาส์ที่เป็นสาย gaming จริงๆ น่าจะเหมาะกับการเติมเต็มความต้องการสาย Gaming มากกว่าเยอะเลยครับ

• 

• 

สรุป

5555 จะว่ายังไงดี Master MX จาก Logitech ก็เป็น the end game mouse สำหรับหลายๆ ท่านอยู่แล้ว มาวันนี้เจ้า MX line ก็ได้รับการอัพเดตส่งท้ายทศวรรษนี้ (คงไม่น่ามีดีไซน์ของ MX Master ออกมาใน 2020 นะ 555) ด้วยฟังก์ชันทำงานที่ดีเท่าเดิม แต่ refine ให้ดีขึ้นด้วย side scroll wheel ที่ใหม่และ USB C และอื่นๆ ถามว่าน่าสนใจมั้ย แน่นอนครับสำหรับผม แต่ก็ยังรู้สึกว่า 2S ก็ยังสามารถทำงานได้ดีใกล้ๆ กัน (แต่เมื่อคุณลองแล้วคุณจะรู้สึกว่ากลับไปรักเจ้า 2S เท่าเดิมได้ยากมากกก 5555) อยากป้ายยาตัวเองต่อ ก็ลองเข้าเว็บของ Logitech ไปดูข้อมูลกันเพิ่มเลยจ้าาา

ถ้าใครยังไม่เคยเป็นเจ้าของ MX Master เลยซักตัว ผมคิดว่าเจ้า 3 เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางรักของคุณและ Logitech MX Master series ได้ดีแน่ๆ ครับ
ส่งท้ายรีวิวกันไปด้วยเสียงของทั้งสองตัวเทียบกันครับ!!

นักเลงคีย์บอร์ด รายงาน