FullSize MechReview TKL

[MechReview] – Leopold FC750R PD & FC900R PD: สุดทาง Off the shelf keyboard

คีย์บอร์ดแบรนด์โสมขาวที่เรียกได้ว่าที่สุดของสาย non-custom

ออกตัวก่อนว่ารีวิวนี้ไม่ลำเอียง แต่ตั้งใจอวย 55555 Leopold เป็นแบรนด์คีย์บอร์ดที่ผมชอบมาตั้งแต่เริ่มเล่น รักของเราก่อตัวจาก FC660M ด้วย layout อันแสนจะน่ารักและคอมแพ็คของมัน เป็นหนึ่งในตัวที่อยากได้ตัวแรกด้วย 555 แต่ต้องถอยเนื่องจากราคาในตอนนั้น (เหตุการนี้พาให้ไปเปิดโลก Mechanical Keyboard กับ Magicforce 68 แทน) แม้จะไม่เคยได้ใช้นานๆ ได้แค่จับๆ ของเพื่อนๆ ตามงานมีท วันนี้ขอพาทุกท่านมาพบกับหนึ่งในชื่อแรกที่ผมได้รู้จัก และเข้าใจถึงคำว่า Quality ในวงการนี้ครับ ก่อนอื่นใด ขอชี้แจงและขอบคุณบอร์ด Demo จากทาง Leopold Thailand นะครับ

ช่วง ยาวไป ขี้เกียจอ่าน

ข้อดี: ทุกอย่าง (ทำไมอะ จะอวยอะ ก็เค้ามีใจให้อะ 555555)

ข้อเสีย: อยากจะบอกว่าไม่มีแต่ไม่ได้ เราต้องมีจรรยาบรรณ 5555 เคยได้ยินคำว่า Timeless Design มั้ยครับ ดีไซน์ที่ดีจะยืนยง คงกระพันธ์ เคสนี้ผสมกับเรื่อง If it ain’t broken, don’t fix it. คือถ้ามันไม่พัง อย่าไปแตะมัน 555 แต่ต้องติงจริงๆ ครับ ปีนี้ก็ 2020 จะ 2021 แล้ว แต่ Leopold ยัง Mini USB อยู่เลยครับ (เท่านั้นไม่พอ พี่แกแถม PS2 converter ด้วย เผื่อใครอยาก old school แบบเต็มตัว หรือเสียดายช่อง USB port อันนี้ไม่ติงนะ เผื่อต้องการความเร็วแบบแม้เพียงเศษเสี้ยววินาทีก็เอา งงเด้ งงเด้ PS2 ไวกว่า USB นะเธอ)

เอาล่ะ เข้าเรื่องได้

Leopold เป็นบริษัทคีย์บอร์ดสัญชาติอปป้าเกาหลี เปิดและดำเนินธุรกิจมาตั้งกะปี 2006 เดี๋ยวนี้คิดว่าผลิตใต้หวันนะครับ เคยผลิตที่จีนแล้วย้ายมาถ้าผมจำไม่ผิด…

เอาละ Leopold มีราคาที่สูง ใช่ ตัดเรื่องราคาออกไปได้เลยครับ เพราะเรากำลังพูดถึงคำว่าคุณภาพที่สูงมาก ขออนุญาติเปรียบเป็นรถยนต์ ก็ประมาณเราจะไม่ขับโตโยต้าแล้ว เรากำลังจะย้ายไปขับ Lexus… งานประกอบ คุณภาพวัสดุ ความใส่ใจ ไม่ต้องเป็นห่วง คือให้เต็ม ประกอบกับตอนนี้ Leopold ได้มีตัวแทนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการซึ่งพร้อมให้บริการและประกัน 1 ปี เผื่อมันมีเศษเสี้ยยยยยวของความเป็นไปได้ที่จะเป็น Factory defect 😒 ซึ่งก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เชอะ 5555

เอาละ ประเดิมด้วยตัวน้องก่อน FC750R PD ขนาด TKL หรือไม่มีนัมแพดครับ

การผจญภัยอันแสนจะหรูของเราเริ่มต้นจากนอกกล่องกันเลยทีเดียว ลองลากสายตาไปบนผิวกล่อง เหลือบไปชมที่มุมกล่องคมอันกริบ ผิว finish เคลือบมัน ลูบสบายมือ หน้ากล่องชี้แจงเสปคเบื้องต้นเพียงพอเท่าที่กล่องพึงจะสื่อสารกับเราได้

อาห์ สบายมือเสียจริง ขออภัย workshop area ค่อนข้างรกครับ 55555

เปิดกล่องมาเราจะพบกับผลงานศิลปะทางการออกแบบ (ว่าซั่น) ที่ถูกครอบด้วยฝาพลาสติคกันฝุ่นอยู่ เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก เรามั่นใจได้เลยว่าพวกเจ้าที่ใส่ฝามาให้ด้วยเนี่ย คือเจ้าที่รักคีย์บอร์ดจริงๆ และใส่ใจอยากให้มันปลอดฝุ่น เบื้องต้นเราลองเอามือสัมผัส PBT Keycaps คุณภาพสูง ผิวสัมผัสสากกำลัง สบายนิ้ว ไม่ละเอียดหรือสากเกินไป ใช้วิธีทำลายแบบ Double-Shot ด้วย ไม่ใช่ dye-sub (ยิงพลาสติคสองรอบอะ ทนดิ) ลายที่ออกมาคือคมเปรี๊ยะ คุณภาพการ QC ลายพิมพ์ดีด้วย คมและความหนาบางของตัวอักษรเท่ากันและเป็นระเบียบ (เทียบภาพกับ PBT ที่ dye-sub มาคุณภาพแบบ 6/10 เห็นชัดมากว่างาน Leopold ดีกว่า)

ในวงกลมคือเห็นค่อนข้างชัดดครับว่าตัวอักษรไม่ระนาบกัน หรือตัว R ใต้วงกลมก็ชัดอยู่ว่าตัวหนากว่าชาวบ้าน

ต่อมาเรายกตัวบอร์ดขึ้นมาสำรวจพื้นผิวและคุณภาพของวัตถุโดยรอบบอร์ด ตัว case บอร์ดทำจากพลาสติกทั้งหมดนะครับ แต่ผมบอกได้เลยว่า finish คือสวยครับ ผิวมี texture เล็กน้อย ทำให้ตัวบอร์ดดูดีเมือแสงกระทบ บอร์ดมีน้ำหนักพอตัว บาลานซ์เท่ากันทั้งบอร์ด ไม่มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่รู้สึกว่าเบากว่าอีกฝั่งครับ ผมบอกได้เลยว่า Leopold สามารถทำให้บอร์ดพลาสติคสวยกว่ายี่ห้อที่พยายามให้เคสเป็นอลูมิเนียมหลายแบรนด์เลย ยี่ห้อ Leopold พิมพ์อยู่หน้าที่ขอบด้านหน้าบอร์ดสำหรับตัว 750R เป็นสีดำบนเคสสีเทา ไม่กระโดด เป็นการปล่อยให้คุณภาพของ product ขายแบรนด์โดยแท้และรักษาภาพหล่อโดยรวมของทั้งบอร์ดไว้ได้อย่างดี (นี่ทำไมฉันถึงขี้อวยแบบเน้ 555)

ชมขนาดกันจะๆ ชอบแบบไหน ไปแบบนั้น ส่วนตัวชอบ TKL มากกว่าแม้จะใช้ numpad เยอะก็ตาม 🤣
ฟอนต์ของ FC900R PD เป็นสีฟ้าบนเทา สวยงามม

พลิกมานิดนึง ข้างใต้บอร์ดมีช่องนำสายไปซ้ายไปขวา แสตนด์แม้จะมีระดับเดียวแต่ก็มียางรองรับครับ เขยิบมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ dip switches ทั้งหลาย เอาไว้ล็อคปุ่มวินโดว์หรือเปลี่ยนเป็นปุ่ม FN แทน อ่านได้ในคู่มือครับ

ฟีลการพิมพ์และการใช้งาน

ไฮไลท์อยู่ที่นี่เลยครับ รูปลักษณ์ภายนอกจะสวยอย่างไร จิตใจข้างในถ้าไม่ได้เรื่องก็แค่นั้น 555 แต่ยี่ห้อนี้ไม่ต้องห่วง ฟีลลิงการพิมพ์และการใช้งานเยี่ยมยอด เสียงการใช้งานเป็นเอกลักษณ์ของ Leopold ที่เขาโปรโมทว่า บอร์ดจาก Leopold จะใส่โฟมซับเสียงมาให้ด้านในจากโรงงานเลย ทำให้เสียงที่ออกมานั้นจะไม่ก้อง ไม่ลั่น ไม่ป้าบๆๆๆๆ (แต่ก็แล้วแต่ท่านๆ ชอบครับ บางท่านชอบ บางท่านไม่ชอบ ส่วนตัวผมชอบ ชอบมากด้วย) เพลตไม่มีสั่น และสีเพลทคือรมดำมาเข้ากับสีเบสของแคปครับ ไม่ติดๆ 55555 ส่วนแสตบ เรื่องนี้คือต้องพูดถึงและให้เครดิตครับ บ่อยครั้งมากที่ผมทำรีวิวหรือจับบอร์ดต่างๆ จะติดเรื่อง stabs ที่จะลั่น เจ้านี้ไม่มีจุดที่โดนหักคะแนนเรื่องนี้ครับ แถมมีการ lube หรือหยอดจารบีมาจากโรงงานเรียบร้อยเลย

รวมรูปครับ แคปหนาปั้ก สายก็หนาเท่าสายยางรดน้ำ 55

รวบยอดละ

ขอโทษนะครับถ้าในรีวิวนี้ผมใช้คำว่าคุณภาพเยอะมากจนมันเริ่มจำเจแล้วมั้ง 5555 คืออยากให้ได้ลองจับครับผม เป็นดีไซน์ที่ผมคิดว่าเป็น standard ของคีย์บอร์ดในดีไซน์แบบ office aesthetics (ศัพท์บรรญัติเอง 555 คือบอร์ดสายใช้ในออฟฟิศ แบบไม่จี๊ดจ๊าด low key สามารถเข้ากับ set up คลีนๆ ) กล้าพูดเลยว่า plastic build quality นี้คือสู้พวก entry-level aluminum case สบายๆ และไม่หนักจนเกินไปด้วย หากใครที่กำลังคิดว่าราคาขนาดนี้ไปลองพวก custom เลยดีไหม หากใจไป custom จริงๆ ก็ต้องไป custom ครับ ของมันต้องลองครับ แต่หากใครที่ต้องการที่จะใช้คีย์บอร์ดแบบคุณภาพดีจริงๆ ลองแวะมาดู Leopold ครับ ไม่แปลกใจที่มีหลายคนในวงการ Mechanical Keyboard Community ทำพวก PCB หรือ adapter ใหม่ออกมาเพื่อ upgrade ตัวบอร์ดยี่ห้อนี้ ทั้งๆ ที่สามารถไปต่อ custom เองใหม่ได้ด้วยซ้ำ ขอนอนยัน ตะแคงยันอีกเสียงว่า Leopold สามารถเป็นมาตรฐานของคำว่า “เยี่ยม” ให้เพื่อนๆ ได้นำไปใช้เป็น benchmark ของคีย์บอร์ดที่คุณจะซื้อ หรือแม้กระทั่งจะ build เองในอนาคตได้อย่างดีครับ ดีไม่ดีเอามาใช้แล้วถูกใจคุณภาพ แต่ไม่ถูกใจ choice ของสวิชต์ก็บัดกรีเปลี่ยนมันโลด กลายเป็น custom ของคุณเองไปอีกยาวๆ นะครับ อิอิ 😁

0 comments on “[MechReview] – Leopold FC750R PD & FC900R PD: สุดทาง Off the shelf keyboard

ใส่ความเห็น