Commart Joy 2017-24
BuyingGuide MechBasic

#BuyingGuide เลือกซื้อ Mechanical Keyboard ควรพิจารณาอะไรบ้าง

แนะนำแนวทางการเลือกซื้อ Mechanical Keyboard ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราควรคิดก่อนจะซื้อ

ก็ตั้งแต่เปิดเพจและเวปมาได้สักพักคำถามยอดฮิตที่มาหลังไมค์ก็คือ “พี่ครับ Mechanical Keyboard ตัวไหนดีครับ”

ตอบแบบกวนตีน “ดีทุกตัวแหละครับ” เพราะผมเชื่อว่าแต่ละอันมันมีข้อดีข้อเสียของตัวเองอะ

Commart Joy 2017-24
จะไปซื้อทีก็เยอะแยะไปโม้ด  เอาอะไรยังไงดีหว่า….

แต่ถ้าจะให้ตอบจริงๆ มันเป็นคำถามที่ถามง่าย แต่ตอบโคตรยากเลยนะ เพราะมันอยู่ที่คุณชอบอะไรยังไง รสนิยมแบบไหน ต้องการอะไร ก็เลยตัดสินใจเขียน #BuyingGuide หรือเป็นแนวทางพิจารณาเลือกซื้อก่อนว่าต้องดูอะไรบ้างถึงจะเหมาะสม

เข้าใจได้เพราะว่า Mechanical Keyboard มันมีให้เลือกเยอะมาก และการทำงานของมันก็คล้ายๆ กันไม่ได้หนีกันไปมาก ทำให้เชื่อว่าหลายคนจะสับสนกันได้

งบประมาณที่มี

อันนี้น่าจะสำคัญสุด ถ้างบเยอะก็มีตัวเลือกเยอะ เพราะ Mechanical Keyboard จะไล่ไปตั้งแต่หลัก 1,500 ยาวไปจนถึงหลักเกือบหมื่นเลยก็มี สิ่งที่แตกต่างกันก็จะเป็นคุณภาพของสวิตช์ คุณภาพงานประกอบตัวบอดี้ คุณภาพของ Keycaps หรือรวมไปถึงราคาค่างานดีไซน์อีก

โดยราคาในช่วง 1,500 – 3,000 จะเป็น Keyboard ที่ไม่ได้ใช้สวิตช์ Cherry ซะส่วนใหญ่ เพราะเนื่องจากเป็นสวิตช์เยอรมันราคาจะค่อนข้างแรงครับ ส่วนราคาในช่วง 3,000 – 5,000 ก็ได้ Mechanical Keyboard แบรนด์มีชื่อเกมเล็กน้อย ส่วน ราคา 5,000 – 7,000 ก็จะไปเป็นค่ายตัวทอปๆ เน้นฟีเจอร์จัดเต็ม เช่นค่าย Corsair หรือ Razer ครับ

หรือถ้าใครเล่น Mechanical Keyboard แบบจริงจัง ไม่ได้เล่นแบรนด์ตลาด ก็มีราคาหลายตังค์อยู่เหมือนกันครับ

K-Type photo
อย่าง K-Type ตัวนี้ราคาก็ 8,000 ได้ คนที่ไม่ได้สนใจ Mechanical Keyboard อาจจะไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ

ไว้เดี๋ยวผมจะเขียนอีกบทความนึงว่าในช่วงราคานึงเนี่ยมี Mechanical Keyboard ตัวไหนน่าสนใจนะครับ

ส่วนงบที่ต่ำกว่า 1,000 ส่วนใหญ่จะเป็น Semi-Mechanical Keyboard หรือเป็นปุ่มยางหลอกๆ ไม่ได้เป็น Mechanical Keyboard แท้ครับ อาจจะต้องหามือสองเอา บทความ คีย์บอร์ดทำงานธรรมดาที่คุณใช้ vs Mechanical ต่างกันอย่างไร? ได้มีการพูดถึงปุ่ม Semi-Mechanical และปุ่มยางไว้ด้วยครับ

รูปแบบ Layout ชอบแบบไหน

Mechanical Keyboard จะค่อนข้างมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่รูปแบบหลักๆ ในตลาดจะมีดังนี้

  • Full Size หรือ 104 Keys คือแบบเต็มๆ หน้าตาที่เราเห็นกันปกติ
  • Tenkeyless (TKL) หรือ 87 Keys คือแบบที่ตัด Numpad ออก
  • Mini (60%) หรือ 60, 61 Keys คือแบบเล็กๆ เน้นแค่ส่วนที่พิมพ์ตรงกลาง

ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความ #MechBasic Layout ของคีย์บอร์ดมีหลายแบบรู้กันไหม? จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ

Ducky One PBT TKL Normal Shot
Ducky One PBT TKL ตัวนี้ไม่มี Numpad ปุ่มตัวเลขด้านขวาให้ ข้อดีคือประหยัดที่ แต่บางคนติดนิสัยไม่มี Numpad แล้วไม่สะดวกก็มี

ถามว่าทำไมต้องเลือกอันนี้อันดับต้นๆ เพราะว่า Layout นี่แหละสำคัญที่สุดเหมาะกับการใช้งานแต่ละคนครับ และสมมติถ้าจะเอาประเภท TKL หรือ Mini ก็ต้องมานั่งไล่เช็คกันเลยว่ามันมีเหลืออยู่กี่รุ่น

หลายคนรีบเลือกซื้อเพราะถูก ปรากฎว่าไม่มี Numpad แล้วก็ใช้ไม่เป็นขึ้นมาก็ไม่ชอบก็ต้องมาปล่อยขายทิ้งเสียเงินเสียเวลาเปล่าๆ

Switch แบบไหนที่ชอบ

Switch เป็นอะไรที่สำคัญอีกอันนึงครับ หลายคนมีความชอบสวิตช์ไม่เหมือนกัน บางคนชอบแบบมีเสียง บางคนชอบเสียงเงียบๆ บางคนต้องการให้หนักๆ Mechanical keyboard ส่วนใหญ่ที่รูปแบบสวิตช์ที่เรียกว่า MX (แบบก้านตัว + ใช้อยู่ 90% ของตลาดได้) โดยเจ้าที่เป็นต้นแบบคือแบรนด์ Cherry ก็เลยเรียกกันว่า Cherry MX ครับ

TADA 68 Switch shot with Gateron Brown
อย่างอันนี้เป็นสวิตช์แบบ MX แต่ผลิตโดยยี่ห้อ Gateron ครับ

สวิตช์แบบ MX จะมีสวิตช์อยู่สามประเภทใหญ่หลักๆ ตามนี้ (ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม)

  • Clicky = คือสวิตช์สองจังหวะ มีความรู้สึกสู้นิ้ว กดแล้วมีเสียง กริ๊กๆ ตัวเด่นในกลุ่มนี้คือ Blue
  • Tactile = คือสวิตช์สองจังหวะ มีความรู้สึกสู้นิ้ว แต่ไม่มีเสียงดัง ตัวเด่นในกลุ่มนี้คือ Brown
  • Linear = คือสวิตช์จังหวะเดียว กดแล้วไหลไม่สู้นิ้ว ไม่มีเสียงดัง ตัวเด่นกลุ่มนี้คือ Red (Black คือหนักกว่า Red)

การเลือกประเภท Switch ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะให้ความรู้สึกค่อนข้างแตกต่างกันอยู่ และคีย์บอร์ดบ้านเราหลายรุ่นจะนิยมเอาเข้าสวิตช์แค่ 1-2 ประเภทเท่านั้น (โดยส่วนมากประเทศไทยจะนิยมขาย Blue ด้วยครับ เพราะกดแล้วมีเสียงคลิกๆ ดังๆ เป็นเอกลักษณ์)

หากต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เชิญคลิก #MechBasic สวิตช์ของ Mechanical Keyboard แต่ละแบบต่างกันยังไง? อันไหนดีที่สุด?

โดยจริงๆ ในรายละเอียดจะมี Keyboard ที่ใช้สวิตช์ไม่เหมือนชาวบ้านด้วย แต่อันนั้นจะข้ามไป ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติมในเวปของเราก็มีอธิบายถึง Switch หลายตัวอยู่ครับ ลองอ่านได้ที่หมวด #Switch เลย

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจจะซื้อแบบไหนผมมีเอา Switch Tester Cherry MX แบบตัวเต็ม เข้ามาขายอยู่ครับชุดละ 590 บาทรวมจัดส่ง EMS ให้ ติดต่อได้ที่เพจเลยที่ https://m.me/KBGangster ครับ

cof
Cherry MX Switch Tester เหมาะสำหรับกับคนที่ไม่แน่ใจว่าชอบสวิตช์แบบไหนน้ำหนักแบบไหน

ฟีเจอร์ที่ต้องการ

อีกอันที่ทำให้คนเข้าใจว่า Mechanical Keyboard คือคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมก็เพราะว่ามาจากการที่มีไฟอลังการงานสร้าง RGB เปิดโหมดไฟได้สารพัดแบบพวกนี้ ต้องถามว่าตัวเองอยากได้ไหม เพราะรุ่นที่มีไฟอลังการมากๆ ก็มักจะราคาแพงขึ้นตามไปด้วยครับ

โดยรุ่นที่เป็นไฟเรียบๆ สีเดียวหรือไม่มีไฟ อาจจะประหยัดได้มากกว่าถึง 1,000 – 2,000 บาทเลยทีเดียว

หรือบางคนอาจจะไม่ได้อยากได้ไฟต้องการจะซื้อ Keycaps มาเปลี่ยนอยู่แล้ว ดังนั้นก็อาจจะเอาแบบรุ่นไม่มีไฟที่ราคาย่อมเยาว์กว่า แล้วก็ซื้อ Keycaps มาเปลี่ยน ก็ต้องดูด้วยว่าแคปมันขนาดใส่กันได้ไหม (อ่านบทความซีรี่ส์ Keycaps ได้นะครับสำหรับผู้ที่สนใจ)

Xiaomi Yuemi Mechanical Keyboard Micro USB close up
สาย USB แบบถอดได้และมาด้วยงานประกอบอลูมิเนียมก็เป็นความชอบที่คนบางคนอยากได้

หรือฟีเจอร์ประเภทเซ็ทปุ่มลับตั้ง Macro ได้ เพื่อจะได้มีปุ่มให้ทำงานหรือเล่นเกมสะดวกด้วย อันนี้ก็เป็นปัจจัยที่น่าดูครับว่า Mechanical Keyboard ที่เราอยากได้น้้นมันเข้าทางเราหรือเปล่า

บางคนก็อาจจะมองไปที่ สาย USB ถอดได้พร้อมกับสายถักเพื่อความทนทาน เพราะตัวเองถอด Mechanical Keyboard ไปเล่นนอกสถานที่บ่อย อะไรแบบนี้ครับ

ดีไซน์

เป็นปัจจัยอีกอย่างนึงที่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือรสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน ฉะนั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรผิดถูก สวยกว่าไม่สวยกว่านะครับ

ดีไซน์ถ้าผมให้แบ่งกลุ่ม ตัวผมเองจะแบ่ง Mechanical Keyboard ได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ (แต่คนอื่นอาจจะแบ่งไม่เหมือนผมนะ)

  • แบบใหญ่ๆ เท่ๆ อลังการ หรือบางคนเรียกว่าทรงอวกาศ จะเน้นดูโฉบเฉี่ยวน่าเกรงขาม ดูบึกบึน เช่น Cougar 700K, Corsair K95, Logitech G910 หรือ Roccat Ryos

 

Roccat Cougar 700K
Cougar 700K บางทีก็นึกว่าเอายานอวกาศมาแปะไว้บนโต๊ะ
  • แบบหน้าตาเรียบๆ แต่เป็นกรอบขึ้นมา (คีย์ไม่ลอย) จะเป็นหน้าตาที่ดูเรียบๆ สวยงาม ประเภทนี้เช่นพวก Realforce RGB, Logitech G Pro, Ducky One, Razer Blackwidow หรือ CoolerMaster Masterkeys
Nvidia Cooler Master Masterkeys Pro L
อย่าง Masterkeys Pro L จะเห็นได้ว่าหน้าตาเรียบๆ แต่แคปจะจมอยู่ในตัวบอดี้
  • แบบหน้าตาเรียบๆ คัย์ลอย สวิตช์วางอยู่บน Plate เฉยๆ ข้อดีของแบบนี้คือทำความสะอาดง่ายสุด เช่น ROG Claymore, Logitech G413 Razer Blackwidow X หรือ Hyper X Alloy
ROG Claymore Core lift front view
ROG Claymore จะเห็นว่า Switch วางอยู่บน Plate เลย ฉะนั้นก็จะเหมือนมันลอยอยู่

สิ่งแตกต่างกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของงานดีไซน์ ไม่ค่อยมีผลต่อการใช้งานเท่าไร แต่แบบ คีย์ลอยจะมีข้อดีอยู่นิดนึงคือทำความสะอาดง่ายกว่า เคาะฝุ่นออกมาง่าย เพราะมันไม่จมลงไป แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าอะไรขนาดนั้นครับ

ประกัน

ข้อนี้ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ของที่ชัวร์หน่อยไม่มีปัญหามาก

แม้ว่า Mechanical Keyboard จะมีความคงทนค่อนข้างมาก โดยการใช้งานนี่กดได้ราวๆ 50 ล้านครั้งต่อปุ่ม (หลังๆ หลายเจ้าก็เริ่มแข่งกันว่าทนกว่า ไป 60 70 80 100 ล้านครั้งบ้าง) แต่มันก็มีโอกาสเสียหายบ้าง โดยเฉพาะเคสที่เป็นอาการเสียหายจากการผลิต อย่างที่บ้านเราเคยเป็นคือ Kailh ล้อทนึงเสียง่ายมากใช้ไป 3-6 เดือนก็กดไม่ติดหรือเบิ้ล หรือค้างไปเลย

ทำให้บ้านเรากลัวสวิตช์ Kailh กันพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถ้าเรามี Mechanical Keyboard ที่ยังอยู่ในประกัน (ส่วนใหญ่จะ 1 ปี) ก็จะเคลมตัวใหม่ออกมาให้กันเลยครับ

แต่เนื่องจากบ้านเราตลาด Mechanical Keyboard ที่ไม่ใช่ Gaming Gear ยังค่อนข้างเล็ก บางรุ่นสวยๆ ก็ไม่มีตัวแทนจำหน่าย เราก็จำเป็นต้องสั่งจากนอก แล้วก็วัดดวงกันว่าจะเจ๊งไม่เจ๊ง (แต่ก็ดีขึ้นนะหลังๆ แบรนด์ Keyboard ดีๆ ก็เข้ามาไทยมากขึ้นทั้ง Vortex, Filco)

แต่เอาจริงถ้าเกิดอาการสวิตช์กดไม่ติดบางปุ่ม มันซ่อมไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ บ้านเราก็มีหลายร้านที่รับซ่อมอยู่เหมือนกัน ราคาไม่แรงมากด้วย อาการที่เจ๊งทำใจอย่างเดียวคือบอร์ดพังครับ

สรุป

ที่สำคัญคือ Mechanical Keyboard เป็นสินค้าที่หน้าที่การทำงานเหมือนๆ กันได้เป็น Input เอาไว้ส่งคำสั่งกดปุ่มหรือพิมพ์เข้าไป ฉะนั้นการทำงานของมันนั้นเรียบง่าย แต่แตกต่างกันอยู่ที่รสนิยม ความต้องการแต่ละคน

บอกได้เลยว่ามันไม่มี Mechanical Keyboard ที่ดีกว่าอันอื่นทั้งหมด มันอยู่ที่ว่าอันที่เราเลือกมันชอบแล้วเข้ามือเรามั้ย ชอบมั้ยแค่นั้นก็มากพอแล้วครับ

ตอนหน้าเดี๋ยวจะมาแนะนำว่าในแต่ละช่วงราคานั้นมี Mechanical Keyboard แบรนด์ไหน รุ่นไหนน่าสนใจบ้างนะครับ แบ่งเป็นช่วงๆ ยังไงติดตามกันได้ครับ

อย่าลืมว่ามีข้อคิดเห็นอย่างไรมาพูดคุยได้ที่แฟนเพจ www.facebook.com/KBGangster นะครับผม

1 comments on “#BuyingGuide เลือกซื้อ Mechanical Keyboard ควรพิจารณาอะไรบ้าง

  1. นิรนาม

    ขอบคุณครับ มีประโยชน์มากเลย ^ ^

    ถูกใจ

ใส่ความเห็น