รู้จักกับ Kailh Switch รุ่นใหม่ ยกทัพมากันเต็มที่ BOX & Speed

Kaihua ผู้ผลิต Mechanical Switch ยี่ห้อ Kailh สำหรับ Keyboard ชื่อดัง (?) เจ้าหนึ่งในตลาดได้พัฒนาสวิตช์ใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการตลาดเต็มที่ โดยมาทั้งหลากหลายแบบเช่นกัน

ในอดีตสวิตช์ Kailh เป็นยี่ห้อแรกๆ ในตลาดที่ทำสวิตช์ Cherry MX Clone (ของเลียนแบบ) หลังจากที่สิทธิบัตรการทำสวิตช์แบบ MX ที่ผูกกับ Cherry เจ้าเดียวหมดลง ในช่วงแรกนั้นบริษัท Gaming Gear หลายเจ้าก็ได้ใช้ Switch Kailh (ทั้ง OEM หรือว่าใช้สวิตช์แบรนด์ Kailh เลย)

แต่ Kailh ช่วงแรกๆ นั้นเต็มไปด้วยปัญหามากมาย ทั้งเบิ้ล ทั้งหลอน หรือกดไม่ติดบ้างเป็นเรื่องกันยกใหญ่ ดังนั้นหลายเจ้าถึงเปลี่ยนไปใช้โรงงานอื่นหรือว่าสายทำ Custom ทั้งหลายก็เลือกใช้ Gateron ที่มาจากจีนเหมือนกันแต่ปัญหาน้อยกว่าแทน

แต่ Kailh ก็ไม่ได้หายไปไหนได้ซุ่มพัฒนา Switch ของตัวเ้อง และในปีนี้ได้ออกซีรี่ย์ใหม่ออกมามากมายโดยล่าสุดได้ออกมาถึง 2 รุ่นด้วยกัน นั่นคือรุ่น BOX และ Speed ครับ

Kailh BOX Switch

เป็นสวิตช์แบบใหม่ที่สุดของ Kailh โดยมาคล้ายกับสวิตช์มาตรฐานแบบเดิม 4 สี คือ Blue / Brown / Red / Black (Blue เปลี่ยนเป็น สีขาว White) โดยมีสเปคคล้าย Cherry MX Switch แต่ตัว Stem เองกลายเป็นกล่องสี่เหลี่ยมล้อมอีกชั้น เพื่อป้องกันปัญหาของเหลวหรือเศษฝุ่นเข้าไปอุดตันใน Switch นั่นเอง

แม้ว่าจะภายนอกจะดูเหมือนเดิม แต่โครงสร้างภายในของ Box Switch ได้รับการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากครับ เรียกได้ว่าเป็นการดีไซน์สวิตช์ใหม่ได้เลยทีเดียว

โดยสวิตช์แบบ Box หรือแบบกล่องได้รับความนิยมในจีนค่อนข้างมาก และได้ใช้งานกันมาพักหนึ่งแล้ว เพิ่งจะได้รับความสนใจจากทางฝั่งตะวันตกเมื่อเร็วๆ นี้เองครับ โดยหลายคนใน Geekhack / Reddit ค่อนข้างประทับใจกับความรู้สึกที่ลื่นขึ้นและแน่นขึ้นของ Kailh Box มากกว่า Kailh แบบเก่าๆ เลยทีเดียวครับ

โดยตัว Box Switch ได้มีการเคลมว่ามีความคงทนสูงขึ้นไปถึง 80 ล้านครั้งการกด และกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP56 เลยทีเดียว (กันฝุ่นและน้ำทั่วๆไปได้ไม่ให้เข้าไปในสวิตช์จนเสียหาย) ส่วนที่แตกต่างกับแบบมาตรฐานคือตื้นขึ้นกว่านิดนึงครับ

ลองดูสเปครายละเอียด ต่างๆได้ ข้างล่างครับ

Kailh Speed Switch

อีกสวิตช์อีกอันที่เปิดตัวมาไล่ๆ กันในยุคใหม่ของ Kailh ก็คือ Speed Switch ครับ โดยเป็นการพัฒนาเลียนแบบกับทาง Cherry MX Speed/Silver Switch นั่นเอง แต่สำหรับ Kailh นั้นไม่ได้มาแค่สีเงินครับ แต่โผล่มา 4 สีตระกูลโลหะมีค่าเลยทีเดียว นั่นก็คือ ทอง เงิน ทองแดง และ บรอนซ์

โดยหลักการ Speed Switch เริ่มจาก Cherry ก่อน ครับก็คือทำให้ Actuation Point (หรือจุดทำงาน) นั้นสูงขึ้น ทำให้เหมือนสวิตช์มันตอบสนองได้เร็วกว่าปกตินั่นเอง

Kailh Speed Switch มีจุดเด่นคือการที่ Actuation Point หรือจุดที่ปุ่มทำงานถือว่าตื้นมาก ทำให้เราส่งคำสั่งเข้าไปได้เร็วกว่าถ้าเทียบกับสวิตช์ปกติ โดยมีระยะกดอยู่ที่ 1.1 มิลลิเมตรเท่านั้นปุ่มก็ส่งคำสั่งเข้าไปแล้ว แต่ระยะการกดทั้งหมดนั้นยังอยู่ที่ 3.5mm ไม่ได้ตื้นมาแต่อย่างใด

ส่วนของ Kailh นั้นจะต่างจาก Cherry คือการออกแบบมาหลายสีให้มีทั้ง Clicky และ Tactile ในขณะที่ของ Cherry ทำมาแค่สีเงินที่เป็น Linear อย่างเดียวครับ

ส่วนสเปคของ Kailh Speed Switch เชิญด้านล่าง (Thick Gold คือ บรอนซ์นะครับ)

มีอะไรที่แตกต่างอีกไหม?

จุดแตกต่างอื่นที่น่าสนใจสำหรับคนชอบ Clicky Switch (พวก MX Blue) คือรอบนี้ Kailh ได้ทำ Clicky Switch โดยใช้ Click Bar แทนที่จะเป็น Double Housing เหมือนเดิมครับ

ลองดูภาพด้านล่างจะเห็นว่า Cherry MX Blue หรือ  Blue Switch จะใช้วิธีการกระเด้งของส่วนประกอบภายในทำให้เกิดจังหวะและเสียงครับ

แต่ถ้าเราดูคลิปวิดีโอนี้ จะพบว่า Kailh เค้าพัฒนาทำให้เกิดเสียงจากการที่ตัวดีดไปขัดก้านดีดทำให้เกิดเสียงคลิกและแรงต้านคนละแบบนั่นเอง เราเรียกว่า Click Bar ครับ

ที่น่าสนใจคือทั้ง Kailh Speed และ Kailh Box  ได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีจากใน Community พอสมควรครับ เรียกได้ว่าลบล้างภาพ Kailh ห่วยๆ ในอดีตค่อนข้างหมดสิ้นเลยทีเดียว สิ่งที่เหลือตอนนี้ที่ต้องรอรับการพิสูจน์คือความคงทนว่าจะทนได้ขนาดไหนครับ

โดยล่าสุดถึงขนาดร่วมมือกับทาง Input Club เป็นผู้ผลิต Halo Switch ให้เลย การที่ Input Club ยอมให้ Kailh ผลิตสวิตช์ให้นั่นหมายถึงว่าคุณภาพต้องได้คุณภาพระดับหนึ่งเลยทีเดียว (อ่านข้อมูลเกี่ยวกับข้องกับ Halo Switch เพิ่มเติมที่นี่)

ปิดท้ายด้วยคลิปรีวิวสวิตช์ ​​Kailh แบบใหม่ๆ แบบจัดเต็มทุกเม็ด อธิบายละเอียดจาก Chyroshan22 ผู้ที่ทำคลิปเกี่ยวกับ Mechanical Keyboard เยอะมาใน YouTube ครับ ใครไม่เชี่ยวภาษาอังกฤษอาจจะยากนิดนึง แต่ลองดูแค่ตัววิดีโอ ก็น่าจะได้อะไรขึ้นเยอะครับ

ผมเองก็ยังรอทดสอบ Mechanical Switch ทั้งสองแบบใหม่ของ Kailh อยู่ โดยจะลองดูว่ามันดีสมคำร่ำลือไหมครับ โดยผมสั่งใน Massdrop ไปละ แต่ก็ต้องหา Keyboard ลงก่อนนะเนี่ย

ยังไงใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็มาคุยกันได้นะครับผม

Source: Tom’s Hardware