หลังจากที่ผมได้รีวิว SteelSeries Apex M650 ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดทาง SteelSeries ประเทศไทยก็ได้จัดส่ง Apex M750 มาลองเล่นกันครับ
ต้องขอบคุณ SteelSeries Thailand สำหรับส่วนของการสนับสนุนเวปไซต์นะครับโดยรอบนี้ทาง SteelSeries Thailand ได้ให้ M750 มาให้ผมลองเล่นครับผมเป็น Red Switch หลังจากที่ลองเล่นซักพักหนึ่งต้องบอกว่า M750 นั้นมีความคล้ายกับ M650 รุ่นก่อนหน้าอยู่อย่างมากเลยทีเดียว
รีวิวนี้อาจจะกระชับหน่อยตรงที่เน้นไปที่จุดแตกต่างกับ Apex M650 มากกว่า ดังนั้นถ้าใครอยากเห็นภาพเต็มๆ คลิกไปอ่านตัว SteelSeries Apex M650 ด้วยจะได้ครบรสครับ
ใครสนวิดีโอ จิ้มเบาๆ ดูได้เลย
คุณสมบัติทั่วไป
SteelSeries Apex M750 มาพร้อมกับ Layout 104 ANSI แบบมาตรฐาน ทำให้สามารถเปลี่ยนคีย์แคปได้ง่าย โดยใช้สวิตช์เดียวกับเจ้า Apex M650 เป็น SteelSeries QX2 นั่นเอง
โดยในไทยจะนำเข้ามาจำหน่ายรุ่นเดียว นั่นคือสวิตช์ Red เท่านั้นครับ มาพร้อมกับ Keycaps ภาษาไทย โดยสนนราคาอยู่ที่ 5,490 บาทพร้อมระบบไฟ RGB แบบจัดเต็มเลย

จุดเด่นของเข้า M750 คือสามารถทำ PRISM Sync หรือระบบแสงสีที่เชื่อมต่อกันหลายอย่างกับสินค้า SteelSeries ตัวอื่น เช่นหูฟังและเมาส์ และยังสามารถใช้โปรแกรมกับ SteelSeries Engine 3 ได้อีกด้วยครับ
ลักษณะภายนอก
ตัวกล่องหรือหน้าตาเองไม่ต่างกับ M650 มากนัก โดยภายในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้เท่ากันก็คือมีตัว Mechanical Keyboard และขารองที่เอาไว้เปลี่ยนเหมือนเคยครับ
ลักษณะภายนอก M750 ก็ยังจะเน้นลายเส้นโค้งด้านข้างที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเคย โดยหน้าตาจะเหมือนเจ้า M650 เป๊ะๆเลยทีเดียว แต่ที่ต่างออกไปคือวัสดุฝาด้านบนนั้นทำมาจากโลหะแทนที่จะเป็นพลาสติกครับ นั่นคือจุดที่ดีกว่า M650 หนึ่งอย่างล่ะ
การที่ใช้ฝาบนเป็นโลหะทำให้สีของ M750 นั้นเข้มออกไปแนวสีดำมากกว่า M650 ครับ เพราะทาง M650 จะออกสีเทาจากงานพลาสติกที่ใช้
ส่วนของสาย USB จะเป็นสายยางถอดไม่ได้ครับ พร้อมการเน้นย้ำหนาช่วงตรงหัวต่อที่ทำมาได้ค่อนข้างดี แต่ก็น่าเสียดายที่ว่าอาจจะเกะกะเล็กน้อยเพราะไม่สามารถจัดการให้สายออกทางด้านข้างได้

ส่วนของคีย์แคปทำมาเป็นแบบแคปลอยตามสมัยนิยม เหมือนเจ้า M650 แต่จุดที่แตกต่างออกไปคือ ตัวอักษรฟอนต์ของแคป หน้าตาจะแตกต่างกับ M650 พอสมควรโดยจะมาพร้อมฟอนต์แบบหนาชัดเจนขึ้นครับ ตัวที่ผมได้มารีวิวเป็นแค่คีย์ Eng ครับ ต้องรอดูกันว่าคีย์ไทยจะหน้าตาเป็นแบบไหนกัน

ส่วนวัสดุที่ใช้ทำ Keycaps นั้นวัสดุเหมือน M650 ครับเป็น ABS พ่นดำธรรมดาเหมือนพวก Gaming Gear ทั่วไป ไม่มีอะไรเด่นมากมายครับ อย่างในภาพจะเห็นว่าถ้าใช้งานไปสักพักขึ้นเงาได้แน่นอน
ถ้าดูจากด้านข้างเราจะเห็นว่าคีย์แคปลอยตามการดีไซน์เหมือน M650 แน่นอนกว่าไม่กินฝุ่นเท่าดีไซน์แบบจม ส่วน Keycaps นั้นก็เป็น Profile OEM เรียงกันมาปกติครับ ส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมด้านข้างนั้นทำจากโลหะ
เส้นโค้งแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ดีของ M750 และ M650 ครับ เด่นดีนะ

พลิกกลับมาดู ด้านล่างนั้นเป็นแบบเรียบๆ ใช้ขาตั้งจุกยางแทนที่จะเป็นขาพับ ซึ่งเป็นจุดที่ผมค่อนข้างชอบครับ ดูแน่นหนาดี และเรียบไปกับตัวบอดี้ด้วย ซึ่งจุดที่ต่างจากับ M650 คือมีแนวยางให้ดึงจุกออกง่ายขึ้น
ส่วนที่เหลือของตัวบอดี้ด้านล่างเป็นพลาสติกสีเทาเข้มเรียบไปธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ

Switch
SteelSeries Apex M750 ได้ใช้สวิตช์เฉพาะของแบรนด์ตัวเองนามว่า SteelSeries QX2 เป็นสวิตช์ที่ร่วมมือกันพัฒนาระหว่าง SteelSeries และ Gateron โดยมีดีไซน์เหมือน Cherry MX ทุกประการทำให้สามารถใช้ Keycaps ร่วมกันได้ครับ

ผมได้มีอธิบายข้อมูลของ SteelSeries QX2 ไปแล้วในส่วนของบทความรีวิว Apex M650 สามารถไปอ่านกันได้นะครับ
เจ้า Apex M750 นั้นจะนำเข้ามาสวิตช์เดียวครับ โดยเป็น Red (Linear 45g) เท่านั้นครับ ฟ่ีลลิ่งการพิมพ์ไม่ได้ต่างจาก Apex M650 ที่เคยรีวิวครับ
ฟีเจอร์ลูกเล่น
Software การทำงานของ M750 หลักๆคือ ทำงานผ่าน SteelSeries Engine 3 โดยสามารตั้งการทำงานของ Macro กับระบบไฟได้เลยครับ

ในส่วนของโหมดไฟแบบพื้นฐานไม่แตกต่างกับเจ้า SteelSeries M650 ครับ โดยสามารถเปลี่ยนไฟจากบน M750 ได้เลยโดยไม่ต้องมี Software ก็ได้ครับ โดยแบ่งไฟเป็นสองส่วนคือ Basic กับ Reactive
- ส่วนไฟ Basic คือส่วนไฟที่จะติดตลอดเวลาโดยไม่ต้องกดอะไร โดยสามารถกด SteelSeries Logo (FN) + Ins เพื่อเปลี่ยนโหมด และ FN + Del เพื่อเปลี่ยนสีในแต่ละโหมดได้
- ส่วนไฟ Reacitve คือส่วนฟีเจอร์ไฟที่จะทำงานเพื่อเรากดปุ่ม โดยสามารถกด FN + Home เพื่อเปลี่ยนโหมด และ FN + End เพื่อเปลี่ยนสีในแต่ละโหมดได้
โหมดไฟที่ลองเล่นบน M750 นั้นเหมือนกับ M650 ทั้งหมดครับ และสามารถตั้งค่าผ่าน SteelSeries Engine 3 ได้เลย (ในขณะที่ M650 ใช้ Software เฉพาะของตัวเอง)

แต่ที่ M750 ทำได้เยอะกว่าคือการที่มันรองรับระบบ Engine Apps บน SteelSeries Engine 3 ได้ครับ (M650 ทำไม่ได้เยอะไม่เท่า) โดยตัวอย่าง Engine Apps เบื้องต้นมีดังนี้ครับ
- PRISM SYNC สามารถ Sync ระบบไฟเข้ากับสินค้าตัวอื่นของ SteelSeries ได้ เช่น หูฟัง หรือเมาส์
- Discord สามารถตั้งค่าให้ไฟบน M750 ติดตามการแจ้งเตือนของ Discord ได้ เช่นเวลามีคน Mention หรือว่าเวลามีคนในทีมกำลังพูด เป็นต้น
- Audio Visualizer คือการที่เซ็ทไฟให้บนคีย์บอร์ดเต้นตามเสียงบนคอมพิวเตอร์ (อันนี้บน M650 ก็ทำได้นะ)
- Imagesync คือการเอาภาพ Gif มาแปลงเป็นภาพสีให้ไฟบนคีย์บอร์ดโชว์ตามนั้นได้
- ตั้งค่า Profile ขึ้นกับเกมต่างๆ เช่น CSGO ให้ไฟขึ้นตามสถานะเลือดที่เหลือ หรือ Minecraft โชว์ระดับความคงทนของเครื่องมือเป็นต้น
ใครอยากดูการทำงานบางส่วนเช่นแจ้งเตือนจาก Discord ลองดูได้ในวิดีโอนะครับผม เรียกได้ว่าจุดเด่นของเจ้า M750 เหนือกว่า M650 คือเรื่องของ Software ด้านนี้แหละ แต่บอกเลยว่าถ้าวัดแค่โหมดไฟ มันเหมือนกันเลยครับไม่ต่างกันมาก
อื่นๆ
จุดที่แตกต่างกับ M650 อีกจุดคือการที่ปุ่น FN (โลโก้ SteelSeries) ด้านขวาย้ายตำแหน่งนิดหน่อยครับ โดยเอาปุ่ม Windows มาลงแทน (ไม่มีปุ่ม Menu Key)
จุกยางด้านล่างของ M750 จะมีแทบยางดึงมาให้ ในขณะที่ M650 เป็นจุกยางธรรมดา (ผมชอบ M650 มากกว่าแฮะ)
สรุป
จุดที่ชอบ
- Standard Layout ทำให้เปลี่ยนคีย์แคปได้ง่าย
- โหมดแสงสีไฟที่เปลี่ยนจากบนตัวคีย์บอร์ดได้เลย ไม่ต้องพึ่ง Software อย่างเดียว
- ลายเส้นออกแบบโค้งทำให้ดูไม่ถึกทึนเกินไป
- ฝาบนเป็นโลหะแล้ว ทำให้งานดูดีขึ้นไปอีก
จุดที่ไม่ชอบ
- ของเล่นในกล่องน้อยไปหน่อย อย่างน้อยน่าจะมีที่ดึงคีย์แคปมาให้
- การที่มันเหมือนกับ M650 มากเกินไป รู้สึกได้ว่าทำให้คนสับสน
จะบอกว่า SteelSeries Apex M750 เป็นเหมือนรุ่น Minor change จาก M650 ก็คงว่าได้ โดยมาพร้อมกับฝาบนที่กลายเป็นโลหะ และการรองรับระบบลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น แต่ต้องบอกว่าโดยรวมแทบไม่ได้มีอะไรแตกต่างกับ M650 ที่จำหน่ายอยู่แล้ว
แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า M650 ตอบโจทย์คุณได้มากพอแล้ว (และต้องการ สวิตช์ Blue / Black) ในราคาที่ประหยัดกว่าและมีฟอนต์ไทยให้ M650 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ แต่ถ้าใครต้องการใช้ระบบไฟเช่น PRISM SYNC เพื่อให้เข้าชุดกัน M750 คงเป็นคำตอบเดียวที่มีตอนนี้ครับ
ก็จบกันไปสำหรับรีวิว SteelSeries Apex M750 ยังไงมีอะไรลองไปพูดคุยกันได้ที่เพจนักเลงคีย์บอร์ด และอย่าลืมติดตาม YouTube Channel ด้วยนะครับผม 🙂
อัลบั้มรวมภาพ
0 comments on “[MechReview] SteelSeries Apex M750 ตัวทอปอัพเกรดเบาๆ เพิ่มเติมเรื่อง Software”