[MechReview] Kailh Limited Edition พร้อมกับ BOX White Switch

หลายคนได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของ Kailh อาจจะกลัวจนไม่กล้ายุ่งเกี่ยว แต่ที่จริงแล้ว Kailh เป็นแบรนด์ที่รับการยอมรับในตลาดโลกอยู่ระดับหนึ่ง (แน่นอนว่ามันเคยมีล้อทที่มีปัญหาช่วงแรกๆ จริง)

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Kailh ได้เปิดตัว BOX Switch ไปซึ่งเป็นโครงสร้าง Mechanical Switch ที่น่าสนใจตรงที่กลไกเปลี่ยนแปลงไปจาก Chery MX ที่ใช้กันมาอย่างยาวนานพอสมควร ไม่ว่าจะการวางรูปแบบสวิตช์ใหม่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนกลไกการสร้างเสียง Clicky ใน Box Switch White ที่จะรีวิวกันด้วย

มาวันนี้ผมเองก็ได้เจ้า Limited Edition Mechanical Keyboard จาก Kailh มารีวิวครับ โดยผมจัดการซื้อจาก Kailh มาโดยจะนำมาสะสมและมารีวิวให้เพื่อนๆ กันด้วย ถ้าใครอ่านรีวิวแล้วสนใจอยากได้ ติดต่อผมมาทาง Inbox ได้นะครับ จะได้ช่วยลองดูให้

ส่วนวิดีโอรีวิวอยู่ท้ายบทความนะครับผม หรือดูจาก YouTube Channel ได้เลย

คุณสมบัติเบื้องต้น

Kailh Limited Edition Box Switch Mechanical Keyboard (นามเต็มแม่งยาวจังวะ) เป็นคีย์บอร์ดที่ผลิตเป็นพิเศษขึ้นมามีทั้งหมด 1,000 ตัว โดย Kailh ได้ว่าจ้าง Hexgear ให้ผลิตให้เป็นพิเศษโดยจะเป็น White Box Switch ทั้งหมด

White Box Switch นั้นเป็น Mechanical Switch แบบ Clicky (ประเภทเดียวกันกับ MX Blue) แต่จะมีโครงสร้างภายในต่างกันนิดหน่อยคือจะใช้ Click Bar ในการสร้างเสียงไม่ได้ใช้ Housing เหมือน MX Blue แล้ว เดี๋ยวรายละเอียดว่ากันอีกทีครับ

ตัวฝนครอบบนทำจากอลูมิเนียมแผ่นบิดเข้ารูป บอดี้ด้านล่างเป็นพลาสติก และขอบเป็นพลาสติกโปร่งแสง ขนาด Full Size มาพร้อมไฟ Backlight สีขาว และ ไฟ RGB ล้อมขอบข้างๆ ครับ สนนราคาอยู่ที่ตัวละ $79 หรือประมาณ 2,600 บาท ถือว่าราคาไม่แพง ผมเลยซื้อมาสะสมซะหน่อย

ลักษณะภายนอก

Kailh Limited Edition Box Switch จะมาพร้อมดีไซน์เป็นแคปลอยตามสมัยนิยม มาพร้อมกับแคป PBT Double shot ทีทำเป็นสองชั้น หรือบางคนเรียกมาแคปขนมชั้นนั่นแหละ

ฝาด้านบนทำจากโลหะครับแต่พ่นเป็นสีดำให้สัมผัสที่ค่อนข้างสวยงาม แผ่นฝาด้านบนมีการบิดโค้งเข้ารูปหน้าตาจะคล้ายๆ กับ SteelSeries Apex M650/M750 อยู่เหมือนกัน

ส่วนท่อนล่างเป็นพลาสติกสีดำชิ้นเดียว พร้อมโลโก้ Hexgear อยู่ พลาสติกธํรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นไม่ได้หนาหรือเล่นลายอะไรมาก

ขาตั้งค่อนข้างใหญ่สามารถปรับขาได้สองระดับคือขาเล็กด้านในและขาใหญ่ด้านนอก แน่นหนาดี แต่ส่วนตัวผมว่ามันใหญ่เทอะทะไปนิด แต่ผมเองใช้แบบวางราบไปอยู่แ้ลวอ่ะนะ

จุดเด่นจริงๆ คือด้านข้าง ที่มีการซ้อนพลาสติกโปร่งแสงเข้าไปอีกชั้นครับ ทำให้มีการเล่นไฟ Rainbow ตรงขอบๆ ได้พอสมควร (เท่าที่ดูเหมือน Theme Mechanical Keyboard จีนหลังจากนี้จะมาแข่งกันที่ไฟด้านข้างนี่แหละ) เดี๋ยวเราไปว่ากันเรื่องรายละเอียดไฟทีหลัง

จุดที่ผมชอบคือสาย USB เป็นสายถักแบบหนาปึ้กเลย แม้ว่าจะถอดไม่ได้แต่ดูดีและคงทนพอสมควรแน่นอน เสียดา้ยที่ไม่มีระบบจัดการสายออกด้านข้าง ออกได้แต่ด้านใต้ไปข้างหลังตรงๆ

โดยรวมงานประกอบดีครับด้วยราคาค่าตัวที่ $79 (ยังไม่รวมค่าส่ง) ผมว่าค่อนข้างคุ้มราคาอยู่เลยล่ะ

แต่ที่ผมไม่ชอบจริงๆ ไม่ใช่งานประกอบแต่จะเป็นการยิงลายมากกว่า คือมันยิงลายมาไม่สวยน่ะดูเหมือนอย่างกับของ Prototype หรือ Demo มากกว่าของขาย

อย่างแรกเลยคือโลโก้ Kailh Box Switch แทนที่จะไปยิงมุมขวาบนก็เอามาอัดตรงปุ่มลูกศร ซึ่งผมว่ามันแน่นไป แล้วมันเลยดูรกเลย

อันต่อมาคือ Serial No. เนื่องจากตัวนี้เป็น Limited Edition ที่ทำมา 1,000 ตัว ก็จะมีเลขกำกับ แต่ยิงตัวเลขมาใหญ่มากๆ เด่นด้านหน้าแถมมาเป็นรหัสมาครบชุดเลย ผมว่ามันรกมากกว่าที่จะสวยอ่ะนะ

แม้ว่าตัวนี้จะให้ Hexgear ผลิตให้ก็จริงแต่นับว่าเป็น Brand Kailh นะ เพราะว่าจ้าง OEM เต็มสูบเลย โลโก้และชื่อสินค้าทุกอย่างเป็น Kailh หมดครับ

Kailh Box Switch – White

Kailh Limited Edition Mechanical Keyboard ตัวนี้เกิดมาเพื่อฉลอง (?) การใช้งาน Kailh Box Switch ครับ ซึ่งเป็นสวิตช์แบบใหม่ที่คิดค้นขึ้นจาก Kailh เอง โดยเป็นการดีไซน์สวิตช์ใหม่ทั้งหมดเลย ทำให้แม้ว่าจะเป็นสวิตช์ Mechanical Keyboard เหมือนกัน แต่ฟีลลิ่ง เสียง ลักษณะการทำงานเปลี่ยนไปหมด

ลองดูหน้าตาและโครงสร้างของ Box Switch คร่าวๆ ได้ตามคลิปนี้ครับ

ทาง Kaihua ตัดสินใจใช้สีขาวแทนความ Clicky จากปกติที่เป็นสีฟ้า เหมือน Blue Switch ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะ แต่ให้จำไว้ถ้า Box Switch รุ่น Clicky คือเป็นสีขาว ส่วนใครถ้าสนใจรายละเอียด Box Switch ดูได้ที่บทความนี้ครับ

แม้ว่าจะเรียกว่าเป็นสวิตช์ Clicky เหมือนกันแต่บอกเลยว่า ฟีลลิ่งการกดแตกต่างกับ Blue Switch ปกติอยู่ะพอตัว เพราะการใช้ Click Bar เข้ามาเป็นตัวดีดเสียง ทำให้ไม่ได้มีตัว Housing สีขาวที่จะกระแทกเหมือน MX Blue switch เลย

การมี Clickbar คือภายในสวิตช์จะมีก้านเหล็กขวางไว้ 1 ก้าน แล้วทำตัวเป็นตัวต้านแรงและส่งเสียงดีด จิ๊กๆ ไปในตัวครับ ฉะนั้นหลักการทำงานจะคนละแบบเลยกับปกติ ลองดูวิดีโอประกอบน่าจะเห็นภาพครับ

ฟีลลิ่งการกดจะต่างกับ MX Blue ปกติเหมือนกัน ส่วนตัวผมชอบฟีลลิ่ง Kailh White Box มากกว่า ฟีลลิ่งการกดนั้นค่อนข้างแน่น แล้วเสียงจะไม่ดังก้องลั่นเหมือน Blue Switch ปกติด้วย อธิบายยากเหมือนกันว่าฟีลลิ่งเป็นแบบไหน แต่บอกเลยว่าดี

นอกจากนั้น Box Switch การดีไซน์จะเน้นเพิ่มไปที่กันน้ำกันฝุ่นเข้าตัวสวิตช์ด้วย โดยได้เรทติ้งที่ IP56 (กันน้ำกันฝุ่นส่วนใหญ่ได้) ตามหลักการก็จะมีความคงทนขึ้นมากกว่าแบบปกติเช่นกัน (ใช้งานจริงว่ากันอีกที) แต่ Mechanical Keyboard ที่ใช้ Box Switch ไม่ใช่ว่าจะกันน้ำไปด้วยนะ ต้องแยกกันนะครับ

ยังไงลองไปฟังเสียงพิมพ์แบบเต็มๆได้ในคลิปรีวิวครับ จะพอเห็นภาพ เสียงมันจะออกไปคนละแบบนะ มันจะแน่นๆกว่า วิดีโอด้านล่างนี้จะโชว์การกดว่าเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่าด้านหลังดูเข้าไปดีๆ จะเห็นแท่งเหล็กดีดขึ้นลง นั่นแหละครับ Click Bar ล่ะ

ฟีเจอร์แสงสี

จุดเด่นของเจ้า Kailh Limited Edition Box Switch Mechanical Keyboard (โว้ย ชื่อยาวจังวะ) อีกอย่างนึงคือฟังก์ชั่นลูกเล่นไฟนี่แหละ เป็นการผสมผสาน RGB ที่ขอบข้าง ส่วนไฟใต้แป้นด้านบนเป็น LED สีขาวปกติ

หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ทำ RGB ให้เต็มที่ ผมก็ไม่รู้แฮะ… แต่ส่วนตัวผมชอบแบบนี้มากกว่านะ อาจจะเพราะว่าตัวแคปขนมชั้นไฟมันไม่ลอดด้วยแหละมั้ง ทำ RGB ไปก็ราคาอาจจะแพงเกินไปอีก

ระบบไฟนั้นเราสามารถปรับได้หลายโหมดอยู่เหมือนกันทั้งตัวไฟใต้ปุ่ม และตัวของไฟรอบข้าง ได้ด้วยการกด FN+ ปุ่มต่างๆ ได้เลย ตัวคีย์แคปส่วนโหมดไฟก็จะมียิงเลเซอร์บางๆ กำกับไว้ โดยตัว K คือส่วนที่ปรับไฟบน Keyboard ส่วน S คือปรับไฟด้านข้าง (Side) ครับ หลายอันเรียนรู้ง่าย แต่บางอันก็งงเหมือนกัน

ในวิดีโอผมมีโชว์ตัวอย่างหมวดไฟคร่าวๆ ด้วย แต่ไม่ได้เปิดรีวิวทั้งหมดนะครับ ถ้าใครสนใจเห็นไฟวิ่งไปลองดูในคลิกน่าจะเห็นภาพกว่าครับผม

วิดีโอรีวิว

อื่นๆ

เจ้าตัวนี้่เป็น NKRO แต่สามารถปรับเป็น 6KRO ได้ด้วย (กรณีใช้งานใน BIOS หรือบางอันที่ไม่มี Drivers)

คีย์แคป PBT ที่ให้มาวัสดุและสัมผัสค่อนข้างดี แต่ว่าฟอนต์ส่วนตัวผมว่ายังไม่ค่อยสวยเท่าไร (แต่ก็ดูดีกว่าฟอนต์เกมมิ่งที่นิยมใช้กันก่อนหน้านี้เยอะๆ อ่ะนะ)

สามารถบันทึก Macro ได้แต่ผมพยายามลองแล้วหาวิธีอ่านคู่มือก็ยังไม่เข้าใจ ก็เลยข่างมันไม่ได้ทดสอบ เพราะปกติผมไม่ใช่คนใช้ Macro อยู่แล้ว

สรุป

จุดที่ชอบ

• Feeling ของ Box White ทำได้น่าสนใจ แม้ว่าผมจะเฉยๆ กับ Clicky แต่ตัวนี้ฟีลลิ่งดีกว่าแบบ MX Blue เยอะเลย
• Double Shot PBT Keycaps แบบขนมชั้นที่ให้มาสวยดี
• งานประกอบกับลูกเล่นไฟขอบรุ้งทำได้พอดีๆ ไม่รกเกินไป

จุดที่ไม่ชอบ

• สกรีนลายโลโก้ Box Switch กับ Serial มาไม่ไม่ค่อยสวย
• ฟังก์ชั่นการปรับไฟ เรียงปุ่มมาได้งงอยู่เหมือนกัน
• ไม่มีระบบจัดการสาย
• อยากได้รุ่น TKL มากกว่า แต่ดันไม่มี

เป็น Mechanical Keyboard ที่ผมว่าราคาอยู่ในระดับรับได้ ($79) ถ้าไม่ติดตรงงานสกรีนที่ทำให้ดูเหมือนของ Prototype ในห้องทดลองไปหน่อย ผมมองว่าตัวนี้ผมซื้อมาสะสมมากกว่า เหมือนเป็นของสะสมที่ทำระลึกออกมาจากการใช้ Box Switch

แต่ถ้าใครจะรอซื้อ Mechanical Keyboard ที่จะใช้ Kailh Box Switch รอซักต้นปีหน้ารับรองมากันเพียบครับ เพราะผมเห็นล่าสุดพวกแบรนด์จีนต่างๆ เริ่มหยิบไปใช้กันบ้างแล้ว เช่น Motospeed เป็นต้น (ซึ่งถ้า Motospeed เปิดตัว แบรนด์ไทยเช่น Oker เดี๋ยวก็ OEM เข้ามาแหละ)

อ่านบทความจบแล้วอย่าลืมไปพูดคุยกันได้ที่ เพจนักเลงคีย์บอร์ด หรือ ติดตาม YouTube KBGangster ด้วยนะครับผม จะได้เป็นการสนับสนุนเพจและเวปต่อๆ ไปครับ

อัลบั้มรวมภาพ