หลังจากที่ผมได้รีวิว Logitech MX Master 2S ไปก่อนหน้านี้แล้ว ตัวที่ทาง Logitech ส่งมาให้ผมมาด้วยอีกตัวคือ MX Anywhere 2S ที่สามารถใช้ Logitech Flow ได้เหมือนกัน ใช้เซนเซอร์ Darkfield เหมือนกัน แต่มาพร้อมกับขนาดเล็กและกะทัดรัดกว่า

จะน่าสนใจอย่างไรเดี๋ยวไปดูกัน เท่าที่ลองเป็นเมาส์อีกตัวที่ผมชอบเหมือนกันเลยล่ะ ราคาสนนอยู่ที่ 2,990 บาทที่หาได้จากร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำ (อาจจะมีถูกกว่านี้)
ส่วนสเปคละเอียดๆ ไปอ่านเอาบนเวปโลดแปะตัวใหญ่ให้ด้วย Logitech MX Master 2S และ Logitech MX Anywhere 2S
วิดีโอรีวิว
ลักษณะภายนอก

ขนาดของ MX Anwhere 2S จะพอๆ กับเมาส์พกพาไร้สายทั่วไป สำหรับมือผมที่ใหญ่จะวางได้ไม่เต็มมือ วางแล้วจากปลายนิ้วกดจะถึงกลางๆ อุ้งมือครับ แล้ววางมือราบลงไป
ตัวทรงของ MX Anywhere 2S จะเป็นทรงแบบสมมาตรใช้ได้สองมือครับ ลักษณะจะค่อนข้างเหมือนเมาส์ขนาดเล็กสำหรับพกพาทั่วไปรุ่นอื่นๆ ของ Logitech ครับ เรียกได้ว่าแยกไม่ออกเหมือนกันถ้าไม่ได้สัมผัสโดยตรง

แต่ถ้าได้สัมผัสจะรู้สึกถึงความแตกต่างพอสมควรกับเมาส์พกพารุ่นล่างตัวอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำหนัก วัสดุและงานประกอบที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่าเยอะพอสมควร คือเราจะไม่รู้สึกถึงกรอบพลาสติกถูกๆ โปร่งๆ เท่าไร
ด้านบนจะมีปุ่มคลิกเมาส์ซ้ายเมาส์ขวา Scroll Wheel ที่สามารถกดลงไปเพื่อปรับโหมดหมุนเป็นระดับ กับหมุนฟรีได้ ตัว Scroll Wheel สามารถดันซ้ายหรือดันขวาเพื่อเลื่อนหน้าต่าง ส่วนปุ่มสี่เหลี่ยมเล็กๆ จะเป็นปุ่ม Gesture Action (เดี๋ยวอธิบายทีหลัง) และมีขีดไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่อยู่ขีดนึงครับ
ดังนั้นปุ่มที่ตั้งมาใช้ไม่มีคลิกกลาง ใครจะใช้ต้องไปปรับใน Logitech Options (โปรแกรมปรับค่าของเมาส์) กันเอาเองนะครับ ตอนแรกผมก็งงๆ อยู่เหมือนกัน

ด้านข้างซ้ายจะมีปุ่ม Back/Forward สองปุ่ม ซึ่งตั้งได้ใน Logitech Option ให้เปลี่ยนทำอย่างอื่นได้ กริปยางด้านข้างสองด้านจะมีลายที่ดูเหมือนโพลีก้อนเหลี่ยมๆ เอกลักษณ์ของ MX อยู่ครับ สวยงามไม่ใช่หยอก แล้วก็เข้ามือพอสมควรไม่ลื่น

ด้านหน้าจะเป็นที่เสียบสายสำหรัยชาร์จเป็น Micro USB ชาร์จครั้ง 1 ครั้งใช้ได้ราวๆ 70 วัน (เฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง) ตามสเปคของ Logitech ครับ ซึ่งเท่ากับตัวใหญ่ MX Master 2S เลย สายก็มีแถมมาให้ในกล่องด้วย แต่ไม่มีหัวชาร์จให้นะชาร์จกับ USB คอมได้เลยครับ

พลิกมาดูด้านล่าง นอกจาก Sensor Darkfield ที่ใช้ได้ทุกพื้นผิวแล้ว จะเจอ Slider เปิดปิด พร้อมกับปุ่มเปลี่ยนเครื่องที่เชื่อมต่อ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อทั้งหมด 3 เครื่องไม่ว่าจะเป็น USB Dongle (ผ่าน Unifying ระบบของ Logitech) หรือ Bluetooth ครับ
Feet ที่ฐานเมาส์จะกระจายเป็น 4 มุมของตัวเมาส์ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ใหญ่กว่าเมาส์โน้ตบุ๊คปกติอยู่ให้ความหนืดติดโต๊ะกำลังดี

จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมชอบคือ Unifying USB Dongle ที่มาพร้อมกับ Anywhere 2S จะมีขนาดเล็กกว่า Master 2S ที่ผมได้มาด้วยครับ (อันซ้ายในรูปคือมาตรฐานจาก Master 2S) เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดด้านการพกพาจริงๆ
ที่ผมชอบคือ Build Quality หรืองานประกอบกับวัสดุทำมาได้ค่อนข้างดีมากสำหรับเมาส์พกพา ปกติเราจะชอบเจอพลาสติกกะโหลกกะลา แต่อันนี้งานดีมากครับ เรียกได้ว่าคุ้มกับค่าตัว
ทดลองใช้งาน
ผมทดลองใช้งาน Logitech MX Anywhere 2S ตอนนั่งทำงานนอกบ้าน สลับกับ MX Master 2S เป็นครั้งคราว เพื่อที่จะได้เขียนเปรียบเทียบกันด้วย
จุดเด่นแรกของ MX Anywhere 2S นั่นคือขนาดและน้ำหนักที่กำลังพอดีและเข้ามือ เมาส์โน้ตบุ้คหลายตัวชอบทำขนาดเล็ก เบา ใช่แน่นอนว่ามันพกพาง่าย แต่ฟีลลิ่งในการใช้งานมันบัดซบเหลือเกิน มันป๋องแป่งน่ะ อันนี้จุดที่ผมชอบนะ

จุดชอบต่อมาคือ Scroll Wheel ที่แปลงร่างสองโหมดได้ คือ Scroll Wheel แบบทีละแก๊ก เหมือนเมาส์ปกติ หรือหมุนฟรีทิ้งได้เลย ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็น Auto-shift เหมือนตัวใหญ่ MX Master 2S ที่ผมรีวิวไปก่อนหน้านี้ แต่การกด Scroll Wheel เพื่อเปลี่ยนไปมาก็พอชดเชยได้อยู่
แต่เสียดายไปนิดที่น้ำหนักการกด เพื่อเปลี่ยนโหมดไปมายังถือว่าหนัก (เข้าใจว่าป้องกันการลั่นง่ายๆ) ทำให้บางทีการเปลี่ยนไปมารัวๆ ยังไม่ค่อยจะสะดวกทันทีทันใดซักเทาไร

อีกจุดคือแม้ว่า MX Anywhere 2S ปุ่มน้อยกว่า MX Master 2S คือปุ่มเล็กๆ สี่เหลี่ยมที่เป็น Gesture Button คือปุ่มนี้สามารถแปลงร่างเป็น 5 คำสั่งย่อยได้ถ้าผสมผสานกับการลากเมาส์ ขึ้น ลง ซ้าย ขวา ซึ่งเจ๋งมาก
เราสามารถเลือก Set ที่ Logitech ตั้งมาให้ หรือ Customize เองก็ได้ครับ ซึ่งทำได้มากมายมหาศาลเล บอกเลยว่าถ้าเริ่มคุ้นเคยแล้วใช้คล่องแล้ว เป็นอะไรที่เจ๋งมากมายเลยล่ะ สะดวกขึ้นเยอะเหมือนกัน
จุดที่สามที่ผมชอบคือผมพก MX Anywhere 2S ไปใช้นอกสถานที่เยอะ Sensor Darkfield Technology นั้นทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะโต๊ะไม้ โต๊ะกระจก (แบบกระจกใสทะลุเห็นพื้นเลยนะ) โต๊ะพลาสติกขัดเงา ก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาเลย

หลายคนอาจจะบอกว่ามันก็ปกติของเมาส์ Laser นะ ใช่ครับแต่รุ่นถูกๆ ที่ผมเจอบางทีคือใช้ได้ แต่ว่าเกิดอาการเมาส์รวนกระดุกกระดิกนิดหน่อย (Jitter) ซึ่งบางทีน่ารำคาญพอตัว เจ้า Anywhere 2S ตัวนี้ผมไม่เจอเลย อาจจะเจอเลื่อนไม่ตามใจนิดหน่อย แต่เกิดจากบางทีโต๊ะเลอะน้ำ หรือมีคราบพอเช็ดออกก็ใช้ได้ปกติ
สรุป

ข้อดี
- ขนาดกะทัดรัดแต่งานประกอบหนักแน่นไม่ไก่กา
- เซนเซอร์ Darkfield ทำงานได้ดีมากในหลายพื้นผิว
- Scroll Wheel ปรับเปลี่ยนได้ วงล้อคุณภาพดีมาก
- การใช้ Gesture Button ผสมผสานคำสั่งได้
ข้อเสีย
- หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันหนักเกินไปสำหรับเมาส์พกพา
- ราคาใกล้กับ MX Master 2S เกินไป
- Scroll Wheel ทำ Auto-shift ไม่ได้
MX Anywhere 2S ผมว่าเป็นเมาส์พกพาที่ประสิทธิภาพครบครันที่สุดแล้วจากฝั่ง Logitech สำหรับคนที่ต้องการตัวเดียวแบบจบใช้งานได้ทุกพื้นผิวและมาพร้อมงานประกอบที่ดูคงทนใช้งานได้นาน และเน้นพกพาได้สะดวกไม่กินเนื้อที่กระเป๋ามาก
โดยปกติผมพก Laptop คู่กับเป้ การพกพา MX Master 2S ด้วยก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากครับ แต่ถ้าอย่างเป็นเพื่อนผมบางคนที่พก Laptop ใส่ซองกระเป๋าไป แบบนั้นเค้าก็จะบ่นทันทีว่า MX Master 2S เทอะทะไปและชอบ MX Anywhere 2S มากกว่าทันที
ดังนั้นเบอกได้ว่า MX Anywhere 2S นั้นเหมือนเป็นทอปสำหรับสายพกพา เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องการพกพาเป็นหลัก โดยที่อาจจะเสียเรื่องปุ่มที่เซ็ทได้ไม่เท่ารุ่นใหญ่ แต่ไม่หย่อนเรื่อง Performance ในระดับตัวทอปๆ มีกัน เป็นตัวเลือกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจครับ
คิดเห็นอย่างไรไปพูดคุยกันได้ที่เพจนักเลงคีย์บอร์ด อย่าลืมกด Like แล้วก็แชร์ถ้าชอบบทความ แล้วก็ไปติดตามกันที่ YouTube ด้วยนะครับผม
ใช้งานได้ไม่ถึงปี ยางกันลื่นด้านข้างปลิ้นหลุดทั้งซ้ายและขวาเลยครับ ราคาพรีเมี่ยมจริงๆ แต่คุณภาพสวนทางกับราคามาก
ถูกใจถูกใจ